xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเขาบรรทัดบุกยื่นหนังสือพ่อเมืองตรัง จี้แยกมอดไม้ออกจากผู้รักษาป่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 
ตรัง - เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด บุกศาลากลางจังหวัดตรัง ยื่น 4 ข้อแก้ปัญหาการบุกจับกุมไม้เถื่อนในพื้นที่ 2 อำเภอ รวมทั้งการละเมิดสิทธิชุมชน และใช้อำนาจเกินกว่าเหตุของ จนท.ป่าไม้

เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ตรัง หลังใหม่ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ซึ่งนำโดยนางกันยา ปันกิตติ และสมาชิกกว่า 60 คน ใน 6 อำเภอของ จ.ตรัง ได้เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้สั่งให้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบลักลอบตัดไม้ทำลายป่ารอยต่อ 2 อำเภอ ระหว่างบ้านเขาหลัก ม.7 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง กับบ้านหาดสูง ม.5 ต.เขาปูน อ.ห้วยยอด

แต่ทางเครือข่ายฯ รู้สึกกังวลใจเรื่องการปฏิบัติงานตามนโยบายดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้แยกแยะผู้บุกรุกป่าตัวจริง กับชุมชนดั้งเดิมที่มีการดูแลรักษาป่า โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์สื่อของ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ที่ระบุว่า ขบวนการมอดไม้ได้นำคอนกรีตมาเทเป็นถนนเส้นเล็กๆ พร้อมทั้งทำสะพานข้ามลำน้ำ 3 จุด โดยมีการใช้ควายชักลากไม้ออกนอกพื้นที่

นางณัฐธยาน์ แท่นมาก หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงสะพานข้ามลำน้ำดังกล่าวมีขนาดกว้างเพียง 150 ซม. และยาวเพียง 16 ม. ซึ่งชุมชนได้ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อใช้สัญจรเข้าออกหมู่บ้าน และบรรทุกพืชผลการเกษตร พร้อมทั้งยังมีการบวชต้นไม้กว่า 200 ต้น ภายในป่าดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 2543 และดูแลรักษาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น จึงขอยืนยันว่าเส้นทางและสะพานดังกล่าวไม่ได้สร้างขึ้นโดยกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้ และไม่ได้มีร่องรอยการใช้ควายชักลากไม้ผ่านยังเส้นทางนี้

ทั้งนี้ บ้านหาดสูงถือเป็นชุมชนดั้งเดิม และก่อตั้งหมู่บ้านมาแล้ว 100 ปี แต่ต่อมา ได้มีการจัดทำโฉนดชุมชน อีกทั้งยังมีบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ว่า ในระหว่างที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอดำเนินการใดๆ ที่อาจเป็นมูลเหตุความขัดแย้ง หรือความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิต และสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐไปพลางก่อน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันแล้ว แต่สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดยังคงถูกข่มขู่คุกคาม โดยล่าสุด มีหนังสือจากอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า สั่งรื้อถอนบ้าน น.ส.กิจวรรณ สังข์ช่วย หนึ่งในสมาชิกบ้านหาดสูง อีกทั้งยังมีการใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. จี้บังคับ นายสมคิด กันตังกุล อีกหนึ่งในสมาชิกบ้านทับเขือ-ปลักหมู ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิชุมชน และใช้อำนาจเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่ป่าไม้

 
และจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลให้สมาชิกกังวลใจ จึงได้ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ

1.ให้มีคำสั่งให้แยกแยะชุมชนดั้งเดิม และผู้รักษาป่าออกจากผู้บุกรุกทำลายป่า

2.ให้ยุติการรื้อสะพานทางเข้าพื้นที่โฉนดชุมชนบ้านหาดสูง ยุติการรื้อถอนบ้านของ น.ส.กิจวรรณ และยุติดำเนินคดี นายสมคิด

3.ให้ชะลอดำเนินการใดๆ ที่เป็นมูลเหตุให้เกิดความขัดแย้ง หรือความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิตแก่สมาชิกฯ และให้สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามปกติไปพลางก่อน ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหา

4.ให้จัดประชุมหารือระหว่างเครือข่ายฯ กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธาน พร้อมทั้งขอให้ทางจังหวัดส่งข้อเรียกร้องเหล่านี้ ผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วย

ด้าน นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวชี้แจงว่า เนื่องจากในวันดังกล่าว ทางจังหวัดได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ระหว่าง 2 อำเภอ จึงสั่งให้ทุกฝ่ายสนธิกำลังเข้าตรวจสอบ และพบการก่อสร้างสะพานคอนกรีตดังกล่าว จึงได้ปิดทางเข้า-ออก เพื่อป้องกันการนำไม้ออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดเรื่องสะพานได้ ดังนั้น ตนจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่เพื่อทำการพิสูจน์ และแก้ไขปัญหาเรื่องสะพานอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทำเกินกว่าเหตุนั้น ตนจะดำเนินการสอบสวนเพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมทั้งยืนยันจะยึดตามแนวทางเดิมของโครงการโฉนดชุมชน และจะให้ทางอำเภอดำเนินการสอบสวนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่พบการตัดไม้ทำลายป่าว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง แต่ทั้งนี้ ตนยังข้องใจว่าเหตุใดในพื้นที่ที่ยังมีการตัดไม้ทำลายป่า ทางชาวบ้านไม่แจ้งให้ตนทราบ แต่กลับปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน จนมีการนำไม้ออกจากในพื้นที่บางส่วนแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทางจังหวัดจะนำหนังสือส่งผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาต่อไป

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น