ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้การฯ ภูเก็ต แถลงกรณีคนไทยข่มขู่ทำร้ายนักท่องเที่ยวรัสเซีย เป็นการกระทำของคนคนเดียว ไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำของคนภูเก็ตในภาพรวม และทางตำรวจภูเก็ตไม่ได้ปล่อยปละละเลย จับกุมผู้กระทำผิดส่งดำเนินคดี และขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล ส่วนการนำคลิปกรณีดังกล่าวซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวออกเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ เชื่อมีเจตนาทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวภูเก็ต พร้อมตรวจสอบที่มาที่ไปของคลิปดังกล่าว
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เป็นประธานแถลงข่าว กรณีคลิปฉาวคนไทยข่มขู่ และทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เผยแพร่ผ่านยูทิวบ์อยู่ในขณะนี้ โดยมี พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมแถลง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2556 ผู้ต้องหาได้เคาะห้องผู้เสียหาย คือ นายวาซิลี วาซิล นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ห้อง 503 พีเอ็น แมนชั่น หมู่ 5 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จากนั้นเมื่อผู้เสียหายเปิดประตูผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่ และทำร้ายผู้เสียหาย โดยมีข้อความในการพูดคือ ผู้เสียหายได้พาภรรยาของผู้ต้องหาไปเที่ยวที่เขาหลัก จ.พังงา เมื่อผู้ต้องหาทราบเรื่องจึงได้มาก่อเหตุขึ้น
ต่อมา เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2556 ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และได้ทำการสืบสวนติดตามจนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาคือ นายพัชระ อุตสาหะ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดตรัง ประกอบอาชีพเป็นผู้จัดการ บริษัท ไทยประมวล ออยล์ เกี่ยวกับน้ำมันเครื่องเรือ โดยต้องออกดูแลลูกค้าตามเกาะต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ต่อมา วันที่ 12 มิ.ย.2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวผู้ต้องหาได้ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทำไปเพราะโกรธที่ผู้เสียหายพาภรรยาไปเที่ยว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าค้นห้องพักห้องพักเลขที่ 402 ของผู้ต้องหาพบอาวุธปืนอัดลม ซึ่งเมื่อผู้เสียหายตรวจสอบพบว่า เป็นกระบอกเดียวกันกับที่ก่อเหตุ และผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายผู้เสียหายจริง ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบเสาะ และศาลได้นัดมีคำพิพากษาในวันที่ 12 ก.ค.2556
พล.ต.ต.โชติ กล่าวว่า การแถลงข่าวในวันนี้ สืบเนื่องจากล่าสุดได้มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ภาพกรณีดังกล่าว เป็นภาพขณะที่ชาวรัสเซียถูกคนไทยทำร้าย โดยใช้อาวุธปืนขู่ แล้วก็บังคับให้ชาวต่างชาตินั่งคุกเข่า และใช้มือตบทำร้าย ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2556 ที่ห้อง 503 พีเอ็น แมนชั่น และทางพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2556 ก็ได้นำส่งตัวนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย คือนายวาซิลี วาซิล ซึ่งเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ 5 เม.ย.2556 และพักอยู่ที่พีเอ็น แมนชั่น และเกิดเหตุเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2556 ไปให้แพทย์ตรวจ ก็ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย แต่ผู้เสียหายก็มีอาการปวดที่ศีรษะ ซึ่งแพทย์ก็ออกความเห็นในเบื้องต้นว่า รักษาหายภายใน 3 วัน ก็ถือว่าได้รับบาดเจ็บไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กาย
ในคดีนี้สามารถเปรียบเทียบปรับชั้นพนักงานสอบสวนได้ แต่เรียนให้ทราบว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เราให้ความสำคัญกับการที่จะดูแลรักษาความปลอดภัย และเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยว และพักผ่อนในจังหวัดภูเก็ตเป็นพิเศษ ทุกคดีที่มีเหตุเกิดขึ้น ที่มีการกระทำต่อนักท่องเที่ยว ทางพนักงานสอบสวนของทุกสถานีจะดำเนินคดี แล้วส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเก็ตทุกคดี คดีดังกล่าวนี้ก็เช่นเดียวกัน พนักงานสอบสวนก็ได้ทำสำนวน แล้วก็ส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ตามคำคดีดำที่ 3216/56 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบเสาะของศาลจังหวัดภูเก็ต และจะมีคำพิพากษาในวันที่ 12 ก.ค.2556
พล.ต.ต.โชติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กรณีมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ถือว่าเสียหายต่อชาวภูเก็ตของเรา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลย หรือเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการ หรือประชาชนรวมตัวกันมา แล้วก็มากระทำต่อนักท่องเที่ยว ไม่ใช่เป็นภาพรวม หรือว่าส่วนราชการใดรวมกันมาแล้วก็มากระทำต่อชาวรัสเซียคนนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวของคนคนเดียว แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว
ดูจากคลิปวิดีโอของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียแล้ว เป็นเหมือนกับว่ามีการเตรียมการเอาไว้ เราก็อาจจะคิดไม่ถึงว่าจะเป็นการช่วยให้คนที่เขาต้องการสร้างความเสียหายให้เกาะภูเก็ตเกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวในทางลบต่อชาวภูเก็ตของเราได้แพร่กระจายไป อันนี้ถือว่าอาจจะนึกไม่ถึงว่าเราก็ตกเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ความไม่ดีของเราไป โดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
“แทนที่จะเอาข้อความมาถามกับทางเจ้าหน้าที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ให้ความเป็นธรรม หรือว่าปล่อยปละละเลยดำเนินการเกี่ยวกับการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหรือไม่ กลับเอาคลิป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเอามาเผยแพร่ ถือว่าเป็นการทำร้ายประเทศไทย ทำร้ายชาวภูเก็ตของเราอย่างยิ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญขอให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การกระทำของคนภูเก็ตทั้งจังหวัด เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่การกระทำขององค์กร สมาคม หรือการท่องเที่ยวของชาวภูเก็ตของเราที่ดูแล หรือว่าประกอบการให้บริการกับนักท่องเที่ยว อันนี้ถือว่าสร้างความเสียหายให้แก่ภูเก็ต ให้แก่ประเทศชาติ
เรื่องนี้ได้มอบให้ พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินการ หรือว่าการปฏิบัติ หรือว่าแนวความคิดของผู้ที่เผยแพร่คลิปดังกล่าวว่าทำไปทำไม มีวัตถุประสงค์ที่จะทำร้ายภูเก็ต หรือทำร้ายประเทศของเราหรือไม่อย่างไร รวมถึงให้พิจารณาในส่วนของวิชาชีพสื่อมวลชนว่ามีความผิดฐานใดหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้องจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด” พล.ต.ต.โชติ กล่าว
สำหรับคลิปวิดีโอดังกล่าว ถูกเผยแพร่โดย บก.ข่าวชาวรัสเซีย ของหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ฉบับหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต โดยเผยแพร่ผ่านเว็บไซด์ข่าวภาษาอังกฤษ
