ตร.หลังสวนคุมตัวโจรหัวเถิกปล้นเงินธนาคารทำแผนฯ รับทำไปเพระเป็นหนี้พนันบอล

ชุมพร - ตำรวจ สภ.หลังสวน จ.ชุมพร คุมตัวโจรหัวเถิกชิงเงินธนาคารไทยพาณิชย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เผยเป็นทาสพนันบอล ถูกขู่ทำร้ายต้องหาเงินไปใช้หนี้ จึงลงมือก่อเหตุโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า

จากกรณีคนร้ายเป็นชายหัวเถิก รูปร่างท้วม สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ ไม่ปิดบังใบหน้าบุกเดี่ยวชิงเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทสโก้โลตัส อ.หลังสวน จ.ชุมพร บริเวณถนนเอเชีย 41 หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เหตุเกิดตอนเย็นของวันที่ 18 มิถุนายน 2556 แล้วหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล โดยภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารได้บันทึกภาพของคนร้ายไว้อย่างชัดเจน

ต่อมา ไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ ทราบชื่อ นายสุรศักดิ์ ประทุมชัย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/7 หมู่ที่ 4 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นพนักงานขับรถยนต์ส่งขนมของ บริษัท เพรซิเด้นท์ เบเกอร์รี่ (ฟาร์มเฮ้าส์) จำกัด สาขาชุมพร ได้ที่บริเวณถนนสายเอเชีย 41 หน้า สภ.บ้านวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะขับรถยนต์ไปส่งขนมให้แก่ลูกค้า โดยนายสุรศักดิ์ ได้ไปแปลงโฉมตัดผมสั้นโกนเคราใหม่เพื่อตบตาตำรวจ และต่อมาได้ให้การรับสารภาพเนื่องจากจำนนด้วยหลักฐาน

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (20 มิ.ย.) พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.หลังสวน พ.ต.ท.สิชา พูลวงษ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผกก.ป. พร้อมกำลังได้ควบคุมตัว นายสุรศักดิ์ ประทุมชัย ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ที่ก่อเหตุ โดยเริ่มจากการขับรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันรุ่นนาวารา สีดำ ตอนครึ่ง ทะเบียน บพ 1447 ชุมพร เข้าไปจอดที่ลานจอดรถหน้าห้างเทสโก้โลตัส แล้วเดินเข้าไปดูลาดเลาหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ที่อยู่ภายในห้าง โดยอ้างว่าไม่มีอาวุธใดๆ ติดตัวเข้าไปด้วย เมื่อเห็นปลอดคนจึงเดินเข้าไปทำทีพูดคุยกับพนักงานธนาคาร ว่า จะมาเบิกเงินต้องทำอย่างไรบ้างโดยพนักงานบอกให้เขียนข้อความลงในใบสลิปถอนเงิน แต่นายสุรศักดิ์ กลับเขียนข้อความลงในใบถอนเงินว่า “เอาเงิน 300,000 แสนใส่กระเป๋า” พร้อมกับพูดข่มขู่พนักงานหญิงของธนาคารว่าอย่าเอะอะโวยวายมิฉะนั้นจะยิงให้ตาย ทำให้พนักงานเกิดความกลัวคิดว่ามีปืนจริงจึงยอมหยิบเงินที่มีอยู่ในช่องเก็บเงินทั้งหมดจำนวนกว่า 20,000 บาท ใส่กระเป๋าหิ้วให้กับนายสุรศักดิ์ ที่ยืนทำทีเหมือนลูกค้าของธนาคารโดยใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ 30 วินาที

จากนั้น นายสุรศักดิ์ ทำตัวเหมือนลูกค้าที่ไปเดินซื้อสินค้าภายในห้าง แล้วเดินผ่านออกมาทางประตูหน้าแบบใจเย็น โดยมี รปภ.ของห้างยืนอยู่ด้วย เพื่อไปขับรถยนต์ที่จอดไว้ขับหลบหนีไปตามถนนสายเอเชีย 41 มุ่งหน้าไปทาง จ.สุราษฎร์ธานี แล้วได้ยูเทิร์นรถย้อนกลับมาทางอำเภอหลังสวน และไปจอดรถที่หน้าโรงพยาบาลหลังสวน แล้วถอดเสื้อแจ็กเกตสีดำที่ใส่ตอนก่อเหตุทิ้งลงในถังขยะ แล้วขับรถเข้าไปในตัวเมืองชุมพร จากนั้นแวะตัดผมโกนหนวดเคราที่ร้านตัดผมชื่อ “เจี๊ยบ” ข้างเทศบาลเมืองชุมพร รวมยะยะทางจากจุดเกิดเหตุมาถึงร้านตัดผมประมาณ 95 กิโลเมตร เมื่อตัดผมเสร็จได้ขับรถเข้าไปบ้านพักบริเวณ หมู่ที่ 4 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร และได้มอบเงินให้แก่ภรรยาที่ท้องแก่กว่า 8 เดือนไปจำนวน 2,000 บาท โดยที่ภรรยาไม่รู้ว่าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารมา

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า เงินที่ทางพนักงานธนาคารหยิบส่งมาให้ตนนั้นมีจำนวน 2 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น ไม่ใช่ 3 แสนบาท เหมือนที่ตนได้เขียนลงบนกระดาษส่งให้แก่พนักงานธนาคารแต่อย่างใด ส่วนที่ต้องตนตัดสินใจก่อเหตุในครั้งนี้เป็นเพราะช่วงเช้าของวันที่ 18 มิ.ย.56 ได้มีเจ้าของโต๊ะบอลรายหนึ่ง ได้โทรศัพท์มาข่มขู่ตนว่าหากไม่ยอมเอาเงินจำนวน 2 หมื่นบาทเศษที่ตนแทงบอลแพ้ไว้ไปให้จะถูกทำร้ายตนจึงเกิดความกลัว หาเงินที่ไหนไม่ได้จนมืดแปดด้าน อีกทั้งที่ผ่านมา ตนแพ้พนันฟุตบอลหลายคู่เป็นเงินหลายหมื่นบาท จึงได้ขับรถยนต์ออกจากบ้านมาแบบใจลอย ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปจอดในห้างเทสโก้โลตัส ที่ตนได้ไปส่งขนมปังอยู่เป็นประจำ แล้วไปก่อเหตุชิงเงินจากธนาคารจนถูกจับกุมในที่สุด

นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนขอฝากเตือนกับคนทั่วไปที่เล่นการพนันด้วยว่าไม่มีใครจะร่ำรวยจากการพนัน มีแต่จะเสียจนล่มจมเป็นหนี้สิน จนต้องคิดสั้นเพียงต้องการหาเงินไปใช้หนี้พนัน ซึ่งจะทำให้ต้องหมดอนาคตเหมือนกับตน

หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสุรศักดิ์ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาความผิดฐานชิงทรัพย์ต่อไป