ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครภูเก็ต ลงสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากเหตุต้นไม้ล้มทับบ้าน จำนวน 8 หลัง จากกรณีเกิดพายุหมุน พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน ถูกกระเบื้องหลังคาตกลงมาทับ ขณะที่ผู้บัญชาการเรือนจำภูเก็ตมอบเงินช่วยเหลือเหยื่อลำโพงตกใส่เสียชีวิต จำนวน 20,000 บาท
จากกรณีฝนตกหนัก ลมพายุกระโชกแรงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเหตุลำโพงขนาดใหญ่ของเวทีการแสดงในงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 10 ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณเวทีกลางสะพานหินตกลงมาทับร่างของประชาชนเสียชีวิต 1 ราย รวมทั้งได้เกิดพายุหมุนพัดต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้านเรือนของประชาชน บริเวณ ถ.ปะเหลียน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหาย จำนวน 8 หลังคาเรือน ล่าสุด วันนี้ (18 มิ.ย.) น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครภูเก็ต นายบุญเรือง หลงละลวด นักวิเคราะห์ชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ลงตรวจสอบความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้น
โดยเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครภูเก็ต ได้นำรถกระเช้า พร้อมเครื่องมือ และกำลังคนเข้ามาตัดต้นไม้ที่หักโค่นทับบ้านเรือนประชาชนทั้ง 8 หลังคาเรือนออก รวมทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ใกล้เคียงออก เนื่องจากอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะโค่นล้มลงมาอีก ถ้ามีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ซึ่งจากการสำรวจในเบื้องต้นพบว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลอดภัย แต่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน คือนางวันดี ทองมังกร อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ถ.ปะเหลียน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลัง และแขน เนื่องจากกระเบื้องมุงหลังคาตกลงมาใส่
นางวันดี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนพร้อมด้วยสามี และหลานสาวอยู่ในบ้าน โดยตนและสามีนั่งกินข้าวอยู่ในครัว ส่วนหลานสวนทำการบ้านอยู่หน้าทีวี เมื่อกินข้าวเสร็จก็เดินออกมาขณะที่กำลังจะนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆ กับที่หลานสาวนั่งทำการบ้านก็ได้ยินเสียดังโครมหลังจากนั้น กระเบื้องมุงหลังคาก็ตกลงมาแตกกระจายเต็มห้องพัก และมีกระเบื้องจำนวนหนึ่งที่ตกลงมาใส่บริเวณหลัง และแขนของตัวเอง ทำให้กระเบื้องที่แตกบาดเป็นแผลจำนวนหลายแผล ส่วนหลานก็เช่นกันถูกกระเบื้องตนมาใส่แต่โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ นายบุญเรือง หลงละลวด นักวิเคราะห์ชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับเรื่องของความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งหารือเพื่อจ่ายค่าชดเชยให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายของบ้านทั้ง 8 หลัง โดยเจ้าหน้าที่ของเทศบาล และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะเร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด เช่นเดียวกับกรณีของนายมูฮัมหมัด ปกสกุล อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต ที่ถูกลำโพงในงานแสดงนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ บริเวณเวทีกลางสะพานหินตกลงมาใส่เสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) ซึ่งจะต้องมีการประชุมเพื่อพิจารณาช่วยเหลือต่อไปเช่นเดียวกัน
ขณะที่นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ได้มอบเงินช่วยเหลือให้ญาตินายมูฮัมหมัด ปกสกุล อายุ 62 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลำโพงตกลงมาใส่ จำนวน 20,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยนายระพินทร์ กล่าวว่า การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการมอบเงินส่วนตัว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเรือนจำภูเก็ต เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวผู้เสียชีวิต เนื่องจากที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตเป็นคนที่หาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด
จากกรณีฝนตกหนัก ลมพายุกระโชกแรงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเหตุลำโพงขนาดใหญ่ของเวทีการแสดงในงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ ครั้งที่ 10 ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณเวทีกลางสะพานหินตกลงมาทับร่างของประชาชนเสียชีวิต 1 ราย รวมทั้งได้เกิดพายุหมุนพัดต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้านเรือนของประชาชน บริเวณ ถ.ปะเหลียน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหาย จำนวน 8 หลังคาเรือน ล่าสุด วันนี้ (18 มิ.ย.) น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครภูเก็ต นายบุญเรือง หลงละลวด นักวิเคราะห์ชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ลงตรวจสอบความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้น
โดยเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครภูเก็ต ได้นำรถกระเช้า พร้อมเครื่องมือ และกำลังคนเข้ามาตัดต้นไม้ที่หักโค่นทับบ้านเรือนประชาชนทั้ง 8 หลังคาเรือนออก รวมทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ใกล้เคียงออก เนื่องจากอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะโค่นล้มลงมาอีก ถ้ามีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ซึ่งจากการสำรวจในเบื้องต้นพบว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลอดภัย แต่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน คือนางวันดี ทองมังกร อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ถ.ปะเหลียน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลัง และแขน เนื่องจากกระเบื้องมุงหลังคาตกลงมาใส่
นางวันดี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนพร้อมด้วยสามี และหลานสาวอยู่ในบ้าน โดยตนและสามีนั่งกินข้าวอยู่ในครัว ส่วนหลานสวนทำการบ้านอยู่หน้าทีวี เมื่อกินข้าวเสร็จก็เดินออกมาขณะที่กำลังจะนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆ กับที่หลานสาวนั่งทำการบ้านก็ได้ยินเสียดังโครมหลังจากนั้น กระเบื้องมุงหลังคาก็ตกลงมาแตกกระจายเต็มห้องพัก และมีกระเบื้องจำนวนหนึ่งที่ตกลงมาใส่บริเวณหลัง และแขนของตัวเอง ทำให้กระเบื้องที่แตกบาดเป็นแผลจำนวนหลายแผล ส่วนหลานก็เช่นกันถูกกระเบื้องตนมาใส่แต่โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ นายบุญเรือง หลงละลวด นักวิเคราะห์ชำนาญการ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับเรื่องของความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งหารือเพื่อจ่ายค่าชดเชยให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายของบ้านทั้ง 8 หลัง โดยเจ้าหน้าที่ของเทศบาล และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะเร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด เช่นเดียวกับกรณีของนายมูฮัมหมัด ปกสกุล อายุ 62 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต ที่ถูกลำโพงในงานแสดงนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ 14 จังหวัดภาคใต้ บริเวณเวทีกลางสะพานหินตกลงมาใส่เสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) ซึ่งจะต้องมีการประชุมเพื่อพิจารณาช่วยเหลือต่อไปเช่นเดียวกัน
ขณะที่นายระพินทร์ นิชานนท์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ได้มอบเงินช่วยเหลือให้ญาตินายมูฮัมหมัด ปกสกุล อายุ 62 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลำโพงตกลงมาใส่ จำนวน 20,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยนายระพินทร์ กล่าวว่า การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นการมอบเงินส่วนตัว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเรือนจำภูเก็ต เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวผู้เสียชีวิต เนื่องจากที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตเป็นคนที่หาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด
