ส่อเค้าวุ่น! ผู้สมัคร อบต.สาคู บุก กกต.จังหวัดภูเก็ตร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อดีตนายก อบต.สาคู “สุรพงศ์ ปัญญาไวย์” หอบหลักฐานเข้าร้องเรียน กกต.ภูเก็ต ยื่นเรื่องร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายก อบต.สาคู ล่าสุด หลังพบพฤติกรรมคู่แข่งเข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งหลายกรณี

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดภูเก็ต (กกต.ภูเก็ต) ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสุรพงศ์ ปัญญาไวย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว ได้เดินทางยื่นหนังสือต่อ นายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายกนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ซึ่งผลการเลือกตั้งปรากฏว่า หมายเลข 1 นายกิตติกร ประทีป ณ ถลาง ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 56 ที่ผ่านมา

นายสุรพงศ์ ปัญญาไวย์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 56 ที่ผ่านมา ได้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู ซึ่งมีผู้สมัคร 2 ราย คือ นายกิตติกร ประทีป ณ ถลาง ผู้สมัครหมายเลข 1 ส่วนผู้สมัครหมายเลข 2 คือตนเอง ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า ผู้สมัครหมายเลข 1 เป็นผู้ชนะ โดยมีคะแนนทิ้งห่างกันเพียง 87 คะแนน แต่กลับพบว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ผู้สมัครหมายเลข 1 นายกิตติกร น่าจะมีการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งอยู่หลายประเด็น ดังนั้น วันนี้ตนจึงได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ มายื่นต่อ กกต.ภูเก็ต เพื่อร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง และขอให้มีการตรวจสอบตามกฎหมายต่อไป

โดยประเด็นการร้องเรียนคือ การย้ายและรู้เห็นให้บุคคลอื่นเข้ามาในทะเบียนบ้านต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง การรู้เห็นเป็นใจให้หัวคะแนนชูป้ายหาเสียงใกล้กลับบริเวณสถานที่เลือกตั้ง รวมถึงการให้เงินซื้อเสียง ซึ่งตนมีพยานหลักฐานพร้อม และยังมีข้อร้องเรียนอื่นๆ อีกหลายประเด็น อีกทั้งยังติดป้ายหาเสียงไว้หน้าบ้านของตัวเองในช่วงวันเลือกตั้งอีกด้วย

ด้าน นายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า การยื่นหนังสือร้องเรียนของ นายสุรพงศ์ ปัญญาไวย์ อดีตนายก อบต.สาคู ทาง กกต.ภูเก็ตได้รับเรื่องไว้แล้ว โดยทาง กกต.เตรียมตั้งอนุคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา 1 ชุด เพื่อลงพื้นที่เก็บข้อมูล และสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยจะใช้เวลาทำงานประมาณ 15-20 วัน หลังจากนั้น กกต.จังหวัดภูเก็ต จะนำเรื่องทั้งหมดที่ได้รับร้องเรียนส่งเรื่องให้ กกต.ส่วนกลางพิจารณาต่อไป