กระบี่ - เกิดมรสุมฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงพัดถล่มชายฝั่ง ทำผู้ประกอบการเรือหางยาวนำเที่ยวกว่า 500 ลำ งดออกให้บริการทางทะเลหวั่นเกิดอันตราย ด้าน ผอ.ททท.กระบี่ แนะนักท่องเที่ยวสามารถเข้าสปา น้ำพุ ทดแทนแหล่งท่องเที่ยวทะเลในช่วงนี้
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (13 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายว่า ผู้ประกอบการเรือหางยาวให้บริการนำเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในพื้นที่หาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง และอ่าวน้ำเมา ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ที่เปิดให้บริการนำเที่ยวเกาะปอดะ หรือที่รู้จักกันในชื่อของทะเลแหวก แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมนั้น ล่าสุด ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวแล้วกว่า 500 ลำ เนื่องจากเกิดมรสุมฝนตกหนัก และมีคลื่นลมทะเลแรงสูงประมาณ 2-3 เมตร โดยผู้ประกอบการเรือหางยาวนำเที่ยวบางส่วนที่ยังให้บริการ ก็จะให้บริการนำเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ๆ ฝั่ง เช่น อ่าวไร่เลย์ อ่าวต้นไทร แต่ก็มีจำนวนบางตาเพราะต้องการคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก
นางวิยะดา ศรีรางกูล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกระบี่ กล่าวว่า ช่วงหน้ามรสุมการเดินทางไปท่องเที่ยวทางทะเลอาจจะไม่มีความปลอดภัยมากนัก ถึงแม้ว่าคนขับเรือจะมีความชำนาญก็ตาม โดยบางช่วงจะเกิดอากาศแปรปรวนอย่างรวดเร็ว เกิดฝนตก และคลื่นลมพัดแรงได้ทุกเวลา จึงขอเตือนนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปท่องเที่ยวทางทะเล เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ และขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดกระบี่ในช่วงนี้ หันไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ หรือสปา จะได้เป็นการพักผ่อนไปด้วย
“ถึงแม้ว่าจังหวัดกระบี่จะเป็นช่วงหน้ามรสุม แต่นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถเลือกท่องเที่ยวได้ตามแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ทั้งตามสถานบริการสปาเพื่อสุขภาพ น้ำพุร้อนเค็ม และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกหลายแห่งที่ยังมีความปลอดภัย โดยจากการสอบถามไปยังสถานประกอบการโงแรม ที่พัก พบจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงนี้มีประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลดลงไปกว่าครึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าท่องเที่ยว แต่ก็ถือว่ายังเป็นปกติ โดนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังเป็นนักท่องเที่ยวไทย และนักท่องเที่ยวแถบเอเชีย เช่น จีน และมาเลเซีย” นางวิยะดากล่าวในที่สุด
