ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวประมงบ้านแหลมตุ๊กแก ยังงดออกหาปลาเนื่องจากคลื่นลมแรง หันมาเก็บหอย และขายเหยื่อเบ็ดเป็นรายได้เสริม ขณะที่เรือสปีดโบตให้บริการนักท่องเที่ยวเริ่มเดินเรือวันแรก หลังจากหยุดให้บริการมานาน 3 วัน
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนร่องมรสุมกำลังแรงได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ในช่วงวันที่ 12-14 มิถุนายน 2556 ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่น คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ และให้ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สำหรับในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่ามา มีฝนตกลงมาเป็นระยะๆ บรรยากาศช่วงเช้าวันนี้ (12 มิ.ย.) บริเวณชุมชนชาวไทยใหม่บ้านแหลมตุ๊กแก ม.4 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากคลื่นลมที่มีกำลังค่อนข้างแรงทำให้ชาวประมงงดออกจับปลา และพักผ่อนอยู่กับบ้าน บางส่วนมีการจอดเรือลำไว้ในทะเล ขณะที่บางส่วนนำเรือ และเครื่องยนต์เรือขึ้นมาเก็บไว้บนฝั่งเนื่องจากเกรงว่า หากมีคลื่นลมแรงจะทำให้เรือถูกคลื่นซัดเสียหาย ซึ่งจากการสอบถามชาวไทยใหม่ทราบว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำเรือออกจับปลาได้ ทำให้ชาวไทยใหม่ต้องสูญเสียรายได้วันละ 300-1,000 บาทต่อครัวเรือน จนบางรายต้องหางานอย่างอื่นเสริม เช่น เก็บหอยติ๊บ หรือหอยนางรมขนาดเล็กมาแกะขาย ซึ่งสามารถขายได้กิโลกรัมละ 70 บาท และบางรายต้องเก็บไส้เดือนทะเลมาขายให้แก่คนตกปลาในราคากองละ 20 บาท เพื่อเป็นรายได้ในช่วงมรสุม
ขณะที่บริเวณท่าเรือสปีดโบต บ้านแหลมตุ๊กแก ซึ่งเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว ของบริษัทอนุรักษ์พังงาซีแคนนู ยังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาลงเรือไปยังเกาะแก่งต่างๆ เช่น เกาะพีพี และเกาะไข่ จำนวนมาก นางรพัสษา น้อยแก้ว เจ้าของบริษัทอนุรักษ์พังงาซีแคนนู กล่าวว่า วันนี้ (12 มิ.ย.) เป็นวันแรกที่บริษัทเปิดให้บริการท่องเที่ยวทางทะเล หลังหยุดเดินเรือมาหลายวันเพราะลมมรสุมมีกำลังแรง และฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ในวันนี้เองพบว่า คลื่นลมเริ่มสงบลงจึงตัดสินใจเปิดให้บริการ มีนักท่องเที่ยวที่จองชื่อใช้บริการกว่า 80 ราย ไปยังเกาะพีพี และเกาะไข่ อย่างไรก็ตาม ในการให้บริการเน้นเรื่องของความปลอดภัยเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่การให้คำแนะนำเรื่องความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวก่อนลงเรือ ให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ การปฏิบัติตัวขณะเดินทาง หรือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจเช็กความพร้อมเรือ คนขับ เด็กท้ายเรือ และอุปกรณ์กู้ชีพที่เผื่อไว้เกินจำนวนผู้โดยสาร และท้ายสุดคือ เรื่องสภาพอากาศ จะมีการตรวจสอบจนมั่นใจว่าไม่กระทบการเดินทางแน่นอนจึงตัดสินใจออกเรือ
ขณะที่บริเวณคลองท่าจีน ซึ่งเป็นปากคลองออกสู่ทะเล มีเรือประมงขนาดใหญ่จอดเรียงรายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งคลอง เนื่องจากไม่สามารถออกหาปลาได้ เจ้าของเรือต้องจอดเทียบท่าเพื่อให้ลูกเรือทั้งชาวไทย และชาวต่างด้าวพักผ่อน และบางส่วนทำการตรวจสอบความพร้อมของเรือ และซ่อมแซมอวนดักปลาเพื่อเตรียมออกหาปลาหลังคลื่นลมสงบ
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนร่องมรสุมกำลังแรงได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ในช่วงวันที่ 12-14 มิถุนายน 2556 ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่น คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ และให้ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สำหรับในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่ามา มีฝนตกลงมาเป็นระยะๆ บรรยากาศช่วงเช้าวันนี้ (12 มิ.ย.) บริเวณชุมชนชาวไทยใหม่บ้านแหลมตุ๊กแก ม.4 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากคลื่นลมที่มีกำลังค่อนข้างแรงทำให้ชาวประมงงดออกจับปลา และพักผ่อนอยู่กับบ้าน บางส่วนมีการจอดเรือลำไว้ในทะเล ขณะที่บางส่วนนำเรือ และเครื่องยนต์เรือขึ้นมาเก็บไว้บนฝั่งเนื่องจากเกรงว่า หากมีคลื่นลมแรงจะทำให้เรือถูกคลื่นซัดเสียหาย ซึ่งจากการสอบถามชาวไทยใหม่ทราบว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำเรือออกจับปลาได้ ทำให้ชาวไทยใหม่ต้องสูญเสียรายได้วันละ 300-1,000 บาทต่อครัวเรือน จนบางรายต้องหางานอย่างอื่นเสริม เช่น เก็บหอยติ๊บ หรือหอยนางรมขนาดเล็กมาแกะขาย ซึ่งสามารถขายได้กิโลกรัมละ 70 บาท และบางรายต้องเก็บไส้เดือนทะเลมาขายให้แก่คนตกปลาในราคากองละ 20 บาท เพื่อเป็นรายได้ในช่วงมรสุม
ขณะที่บริเวณท่าเรือสปีดโบต บ้านแหลมตุ๊กแก ซึ่งเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว ของบริษัทอนุรักษ์พังงาซีแคนนู ยังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาลงเรือไปยังเกาะแก่งต่างๆ เช่น เกาะพีพี และเกาะไข่ จำนวนมาก นางรพัสษา น้อยแก้ว เจ้าของบริษัทอนุรักษ์พังงาซีแคนนู กล่าวว่า วันนี้ (12 มิ.ย.) เป็นวันแรกที่บริษัทเปิดให้บริการท่องเที่ยวทางทะเล หลังหยุดเดินเรือมาหลายวันเพราะลมมรสุมมีกำลังแรง และฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ในวันนี้เองพบว่า คลื่นลมเริ่มสงบลงจึงตัดสินใจเปิดให้บริการ มีนักท่องเที่ยวที่จองชื่อใช้บริการกว่า 80 ราย ไปยังเกาะพีพี และเกาะไข่ อย่างไรก็ตาม ในการให้บริการเน้นเรื่องของความปลอดภัยเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่การให้คำแนะนำเรื่องความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวก่อนลงเรือ ให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพ การปฏิบัติตัวขณะเดินทาง หรือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการตรวจเช็กความพร้อมเรือ คนขับ เด็กท้ายเรือ และอุปกรณ์กู้ชีพที่เผื่อไว้เกินจำนวนผู้โดยสาร และท้ายสุดคือ เรื่องสภาพอากาศ จะมีการตรวจสอบจนมั่นใจว่าไม่กระทบการเดินทางแน่นอนจึงตัดสินใจออกเรือ
ขณะที่บริเวณคลองท่าจีน ซึ่งเป็นปากคลองออกสู่ทะเล มีเรือประมงขนาดใหญ่จอดเรียงรายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งคลอง เนื่องจากไม่สามารถออกหาปลาได้ เจ้าของเรือต้องจอดเทียบท่าเพื่อให้ลูกเรือทั้งชาวไทย และชาวต่างด้าวพักผ่อน และบางส่วนทำการตรวจสอบความพร้อมของเรือ และซ่อมแซมอวนดักปลาเพื่อเตรียมออกหาปลาหลังคลื่นลมสงบ
