ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “คำรณวิทย์” ฉุนไม่ตอบคำถามนักข่าว เผยเพียงจะแบ่ง 3 ทีมนำตัวผู้ต้องสงสัยชี้จุดฝังศพ “เอกยุทธ” ก่อนแถลงข่าวอีกครั้งบ่ายวันนี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายยังให้การวกวน แต่ล่าสุดพบจุดฝังศพแล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เปิดแถลงข่าวคดีอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง และเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ หลังจากจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 3 คน โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีท่าทีหงุดหงิด โดยระบุว่ายังตอบอะไรไม่ได้ และไม่เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวซักถามแต่อย่างใด
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวแต่เพียงว่า จะมีการแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 3 ทีม เพื่อนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน แยกกันไปชี้จุดเกิดเหตุซึ่งระบุว่าฝังศพนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ไว้ ทั้งที่เขาจิงโจ้ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง บ้านพนมวังก์ และบ้านแพรกหา อ.ควนขนุน ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ อ.เมืองพัทลุง และทั้ง 3 จุดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายสันติภาพ เพ็งด้วง หนึ่งในผู้ต้องสงสัย 3 รายที่จับกุมได้ไปชี้จุดเกิดเหตุที่บริเวณบ้านหน้าเขา หมู่ 7 ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง โดยหลังจากขับรถวนอยู่ถึง 2 รอบ นายสันติภาพ ผู้ต้องสงสัยกล่าวว่า ตนจำได้ว่าถนนที่เข้าไปยังจุดฝังศพนายเอกยุทธ เป็นถนนริมคลองชลประทาน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สวนยางพารา และที่โล่งซึ่งมีการไถดินเตรียมพื้นที่สำหรับปลูกพืช และเมื่อไปถึง นายสันติภาพ กล่าวว่าตนจำอะไรไม่ได้เลย
และในช่วงเที่ยงวันนี้จะมีการนำผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 ราย คือ นายสันติภาพ เพ็งด้วง นายชวลิต วุ่นชุ่ม และนายธิวากร เกื้อทอง แยกกันไปชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อพิสูจน์ทราบเบื้องต้น หลังจากนั้นจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 ราย เนื่องจากยังให้การวกวน
รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้ชี้จุดฝังศพนายเอกยุทธตรงกันแล้ว และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขุดศพขึ้นมา
ล่าสุด เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ตำรวจได้นำศพของนายเอกยุทธ ขึ้นมาแล้ว โดยสภาพศพอยู่ในลักษณะเปลือยกาย บริเวณใบหน้าถูกทำร้ายคล้ายถูกของแข็งอย่างรุนแรง
สำหรับความคืบหน้า “ASTVผู้จัดการภาคใต้” จะรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่องต่อไป