ศอ.บต.หนุนให้ใช้ภาษามลายู มองว่าเป็นภาษาที่มั่งคั่งสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้านได้

ปัตตานี - เลขา ศอ.บต. ยันภาษามลายู รัฐบาลไม่ได้มองว่าผิดกฎหมาย แต่กลับเป็นภาษาสร้างความมั่งคั่งในภูมิภาคแห่งนี้ โชคดีที่ประเทศไทยเรามีมากกว่า 2 ล้านคน ที่สามารถพูด และใช้ภาษามลายูได้

วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่เวทีการการรับฟังความคิดเห็นของผู้นำศาสนาเพื่อสันติภาพ ที่ทาง ศอ.บต.จัดขึ้นที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ได้มาเป็นประธานเปิด และได้กล่าวบรรยายพิเศษให้แก่บรรดาอิหม่าม คอเต็บ และบิหลัน ในพื้นที่ 12 อำเภอของจังหวัดปัตตานี ในการเสริมสร้างความเข้าใจกับภารกิจของ ศอ.บต.ในการเข้ามาบริการราชการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า หลังจากได้รับมอบหมายให้มาเป็นเลขาธิการ ศอ.บต.ครบ 1 ปีแล้ว ที่ได้ทุ่มเทความพยายาม และได้รับรู้จากการทำวิจัยว่า ท่านที่เป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่ กลับเป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากที่สุด ถึงแม้หน่วยงานอื่นที่มีความพร้อมมากกว่าในเรื่องบุคลากร เครื่องมือ และค่าตอบแทน แต่กลับไม่ถูกยอมรับจากคนในพื้นที่เท่าที่ควร ทั้งๆ ที่ท่านมาในฐานะผู้อาสา ยอมเสียสละเวลา ค่าตอบแทนก็มีไม่มากมายอะไร

จะเห็นได้ว่าเมื่อไม่กี่วันทาง ศอ.บต.ได้สัมมนาเรื่องเสริมสร้างภาษามลายูในบทบาทประชาคมอาเซียน ที่โรงแรม ปาร์ควิว ที่ จ.ยะลา โดยใช้ภาพรูปถ่ายของหะยีสุหลง โต๊ะมีนา ในฐานะผู้ที่มีบทบาทในการต่อสู้ ปกป้องในเรื่องภาษามลายู แต่กลับมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยเข้ามาถ่ายรูปเพราะเป็นภาพที่ถูกห้าม ผมจึงได้บอกว่าใครสงสัยเรื่องภาพหะยีสุหลง โต๊ะมีนา ที่ติดในห้องสัมมนาให้มาถามเลขาทวี ไม่ต้องไปสงสัย ต้องถือว่าเป็นเรื่องโชคดีที่บรรพบุรุษก่อนสมัยหะยีสุหลง ได้พยายามเรียนรู้ พยายามปกป้องภาษามลายู ทำให้ประชากรของไทยมากกว่า 2 ล้านคน ที่พูด และเขียนเป็นภาษามลายูได้

แต่วันนี้รัฐบาลปัจจุบันในสมัยบริหารของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตลอดจนนโยบายของ สมช. กลับให้การส่งเสริม และสนับสนุนภาษามลายู ไม่ได้มองภาษามลายูเป็นภาษาที่ผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แต่ภาษามลายูกลับเป็นภาษาที่สร้างความเจริญ และสร้างความมั่นคง สร้างอนาคตให้แก่คนในพื้นที่ โดยเฉพาะคนที่นี่เราได้เปรียบ ประชากรเรามีจำนวน 2 ล้านคน เราสามารถพูดภาษามลายูเหมือนกับคนอินโดนีเซีย โดยได้ยกตัวอย่างกรณีที่ทาง ศอ.บต.นำคณะไปเยี่ยมพบปะ และสร้างความสัมพันธ์ ซึ่งมีผู้หลักผู้ใหญ่ของทางประเทศอินโดนีเซียได้กล่าวพูดภายในงาน แต่กลับทำให้คณะผู้นำศาสนาที่มาด้วยกันกลับยิ้ม หัวเราะพร้อมกับผู้ร่วมงานที่เป็นชาวอินโดนีเซีย ผมนึกว่าเคยมาเรียนที่อินโดนิเซีย แต่ผู้นำศาสนา หรือคณะที่มาด้วยกันกลับตอบว่า มันเป็นภาษาเดียวกันกับภาษาพูดที่บ้านผม แค่นี้ทำให้ผมอดปลื้มใจที่นับว่าโชคดีของประเทศเราที่มีประชากรสามารถใช้ภาษาเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน