ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “นิพนธ์ บุญญามณี” ยันลงชิงนายก อบจ.สงขลา ชูนโยบาย อบจ.สีขาว “โตแล้วไม่โกง” ขณะที่ “อุทิศ ชูช่วย” พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ด้าน กกต.เตรียมพร้อมรับมือเลือกตั้งนายก อบจ.ส่วนตำรวจจับตามือปืนรับจ้าง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ที่ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา ทีมประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคแล้ว และมีผลวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคไม่ได้ลาออก ไม่ได้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง การชิงลาออกก่อนครบวาระวันที่ 10 ต.ค. ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด คือ การแสดงออกโดยที่มีพฤติกรรมเอาเงินหลวงมาหาเสียง ตนได้เตรียมตัว นโยบาย และทีมบริหารไว้พร้อมแล้ว ที่จะลงสมัครนายก อบจ. โดยชูนโยบาย อบจ.สีขาว “โตแล้วไม่โกง” และจะเปิดทีมผู้บริหารอีกครั้งหลังจากนี้
“ผู้ที่จะเข้ามาเล่นการเมืองท้องถิ่น ต้องมาทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนและท้องถิ่น ไม่ใช่เข้ามาเอาประโยชน์จาก อบจ. มันผิดหลักการของการกระจายอำนาจ ผิดหลักการการปกครองส่วนท้องถิ่น มั่นใจว่าผมนำเอานโยบายจากการทำประชาคม ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่มาสู่การปฏิบัติได้มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ท้องถิ่น และประชาชนแท้จริง จะบริหารงานโปร่งใส ประชาชนเข้ามาตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน”
ส่วนนายอุทิศ ชูช่วย ได้เผยถึงเหตุผลการลาออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาในครั้งนี้ว่าก่อนที่จะครบวาระในอีก 3 เดือน อยากคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อมีเวลาตัดสินใจว่าจะมอบหมายให้ใครเข้ามาเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาคนใหม่ เพื่อที่จะขับเคลื่อน และพัฒนาจังหวัดสงขลานำไปสู่ความยั่งยืน
ซึ่งประชาชนจะได้ตัดสินใจเลือกนายก อบจ.คนใหม่ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 2556 หากปล่อยให้ครบวาระในเดือนตุลาคม จะมีการกำหนดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2556 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก และต้องมีการเฝ้าระวังภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงตัดสินใจคืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ที่ได้รับเลือกจะเข้ามาเป็นนายก อบจ คนใหม่ ได้มีความพร้อมในการเตรียมตัว และให้การช่วยเหลือประชาชนหากประสบภัยพิบัติได้ทันท่วงที ซึ่งทางภาคใต้ประสบปัญหาทุกปี โดยเฉพาะ 16 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา มีพื้นที่เสี่ยงหลายแห่งทั้งพื้นที่ป่าเขา และพื้นที่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการพาณิชย์ของ 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง
เพื่อให้ประชาชนได้เลือกคนที่มีความรู้ความสามารถได้เข้ามาทำงานให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ขอขอบคุณข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ที่ได้ให้ความร่วมมือในการทำงานกันมาอย่างเป็นรูปธรรม และขอบคุณประชาชนที่ได้ร่วมคิด ร่วมทำ และพัฒนาสงขลาไปด้วยกัน หากเลือกตั้งใหม่ 4 ปีข้างหน้า ตนขอน้อมรับใช้ด้วยนโยบายใหม่ 23 นโยบาย ส่วน 4 ปี ที่ผ่านมา นโยบายที่ทำแล้วจะทำต่อด้วยงบประมาณต่อเนื่อง
ด้านนายอานนท์ มนัสวานิช ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.สงขลา กล่าวว่า กกต.สงขลา ได้อบรมวิทยากรการเลือกตั้งท้องถิ่น ตามโครงการผู้ปฏิบัติงานเลือกตั้ง และการออกเสียงประชามติอย่างมืออาชีพ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ (กกต.) จ.สงขลา จัดขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการเลือกตั้งทุกระดับ ทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่นได้มีความรู้ ความเข้าใจในกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และการลงประชามติ
ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ในการบริการประชาชนที่มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียง อันจะส่งผลต่อการเลือกตั้งที่สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม สามารถตรวจสอบได้ การฝึกอบรมมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทั้ง อบต.และเทศบาล ใน จ.สงขลา เข้ารับการอบรม 57 คน
ขณะที่ พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.จ.สงขลา เปิดเผยว่า ตนรู้จักผู้จะสมัครนายก อบจ.และทีมงานทั้ง 2 คนดี และผู้สมัครเป็นเพื่อนกันมา 20 ปี จึงไม่น่าจะมีปัญหารุนแรงอะไรเกิดขึ้น แต่ให้ตำรวจทำแผนกวาดล้างอาชญากรรมต่อเนื่องจนสิ้นสุดการเลือกตั้ง และตั้งทีมเฉพาะกิจปราบปรามมือปืนรับจ้างที่อาจจะเข้ามาสวมรอยด้วย
