นครศรีธรรมราช - สร้างศูนย์พักพิงโรฮิงญานครศรีธรรมราชจ่อเดือด! ชาวชะอวดลั่นค้านเต็มสูบ ขณะที่นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเดินหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา
หลังจากเกิดกระแสความไม่พอใจของประชาชนใน ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากทราบว่า กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 และกองบัญชาการตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง เตรียมเข้ามาก่อสร้างศูนย์พักพิงชาวโรฮิงญา ในพื้นที่ตั้งกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 เดิม ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ และปัจจุบันได้ถูกทิ้งร้าง แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของ กก.ตชด.42
หลังจากที่มีการทำเรื่องขอสาธารณูปโภคทั้งระบบ โดยใช้งบประมาณสูงกว่า 26 ล้านบาท ทำให้ชาวชะอวดจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ โดยได้ร่วมกันประท้วง และล่ารายชื่อคัดค้านการจัดตั้งศูนย์พักพิง หรือศูนย์อพยพแห่งนี้ พร้อมทั้งยื่นหนังสือพร้อมบัญชีรายชื่อประชาชนกว่า 10,000 คน ไปยังนายวิโรจน์ จะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ระงับ
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีหนังสือบันทึกข้อความปรากฏข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในการดำเนินเรียบร้อยมาตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา และชาวบ้านในพื้นที่ไม่ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มาก่อนเลย โดยมีบันทึกข้อความที่ถูกส่งมาจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงภายในประเทศ ที่ นร.0808/464 ลงวันที่ 25 เม.ย.2556 ได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เพื่อเสนอผลสรุปการประชุม เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2556 โดยแจ้งถึงความคืบหน้าในการดำเนินการในด้านต่างๆ และมีสาระสำคัญ เช่น จำนวนผู้อพยพชาวโรฮิงญาจนถึงวันที่ 9 เม.ย.2556 โดยระบุว่ามีจำนวน 2,017 คน หลบหนีได้ 58 คน เสียชีวิต 1 คน แบ่งเป็นหญิง และเด็ก 404 คน และเป็นชาย 1,554 คน
นอกจากนั้น ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับครอบครัวชาวมาเลเซีย 8 ครอบครัว จำนวน 20 คน ท่าทีของหลายประเทศสำหรับผู้อพยพที่นิ่งเฉย การของบประมาณ 26 ล้านบาท และการใช้พื้นที่ของกองร้อย ตชด.42 เดิม ที่ชาวบ้านได้คัดค้านเป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์พักพิง โดยให้ปรับปรุงอาคาร หรือก่อสร้างอาคารชั่วคราว ซึ่งมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ ลงนามโดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
หลังจากนั้น นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ออกบันทึกข้อความในส่วนราชการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักพิธีการ และเลขานุการ ลงวันที่ 26 เม.ย.2556 ในข้อพิจารณาที่ สมช.เสนอ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามเห็นชอบในวันที่ 30 เม.ย.2556 จนมีการดำเนินการขอสาธารณูปโภคเข้าพื้นที่ และประชาชนในพื้นที่ทราบเรื่องจึงเข้าแสดงการคัดค้าน และปิดล้อมพื้นที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่จะมาจัดสร้างศูนย์พักพิงชาวโรฮิงญาในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ประชาชนในพื้นที่เองยังอยู่ในสภาพยากลำบาก
นายอนันต์ คลังจันทร์ หนึ่งในแกนนำชาวอำเภอชะอวด ที่ร่วมกันแสดงตัวในการคัดค้าน ระบุว่า ไม่ทราบมาก่อนเลยว่ามีการเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้เรื่อง และไม่ได้เห็นชอบด้วย ยืนยันว่าไม่ยอมรับศูนย์นี้มาในพื้นที่โดยเด็ดขาด ดังนั้น หากเป็นเช่นนี้จะประสานกับกลุ่มมวลชนแจ้งเรื่องนี้ให้รับรู้ และมาหาทางออกกัน ข้อเท็จจริงแล้วนั้นควรจะต้องมาทำประชาพิจารณ์กันเพราะเกี่ยวข้องกับคนในพื้นที่
หลังจากเกิดกระแสความไม่พอใจของประชาชนใน ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากทราบว่า กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 และกองบัญชาการตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง เตรียมเข้ามาก่อสร้างศูนย์พักพิงชาวโรฮิงญา ในพื้นที่ตั้งกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 เดิม ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ และปัจจุบันได้ถูกทิ้งร้าง แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของ กก.ตชด.42
หลังจากที่มีการทำเรื่องขอสาธารณูปโภคทั้งระบบ โดยใช้งบประมาณสูงกว่า 26 ล้านบาท ทำให้ชาวชะอวดจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ โดยได้ร่วมกันประท้วง และล่ารายชื่อคัดค้านการจัดตั้งศูนย์พักพิง หรือศูนย์อพยพแห่งนี้ พร้อมทั้งยื่นหนังสือพร้อมบัญชีรายชื่อประชาชนกว่า 10,000 คน ไปยังนายวิโรจน์ จะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ระงับ
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีหนังสือบันทึกข้อความปรากฏข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในการดำเนินเรียบร้อยมาตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา และชาวบ้านในพื้นที่ไม่ทราบข้อมูลข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มาก่อนเลย โดยมีบันทึกข้อความที่ถูกส่งมาจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักยุทธศาสตร์ความมั่นคงภายในประเทศ ที่ นร.0808/464 ลงวันที่ 25 เม.ย.2556 ได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เพื่อเสนอผลสรุปการประชุม เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2556 โดยแจ้งถึงความคืบหน้าในการดำเนินการในด้านต่างๆ และมีสาระสำคัญ เช่น จำนวนผู้อพยพชาวโรฮิงญาจนถึงวันที่ 9 เม.ย.2556 โดยระบุว่ามีจำนวน 2,017 คน หลบหนีได้ 58 คน เสียชีวิต 1 คน แบ่งเป็นหญิง และเด็ก 404 คน และเป็นชาย 1,554 คน
นอกจากนั้น ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศ พบว่ามีความเชื่อมโยงกับครอบครัวชาวมาเลเซีย 8 ครอบครัว จำนวน 20 คน ท่าทีของหลายประเทศสำหรับผู้อพยพที่นิ่งเฉย การของบประมาณ 26 ล้านบาท และการใช้พื้นที่ของกองร้อย ตชด.42 เดิม ที่ชาวบ้านได้คัดค้านเป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์พักพิง โดยให้ปรับปรุงอาคาร หรือก่อสร้างอาคารชั่วคราว ซึ่งมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ ลงนามโดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
หลังจากนั้น นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ออกบันทึกข้อความในส่วนราชการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักพิธีการ และเลขานุการ ลงวันที่ 26 เม.ย.2556 ในข้อพิจารณาที่ สมช.เสนอ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามเห็นชอบในวันที่ 30 เม.ย.2556 จนมีการดำเนินการขอสาธารณูปโภคเข้าพื้นที่ และประชาชนในพื้นที่ทราบเรื่องจึงเข้าแสดงการคัดค้าน และปิดล้อมพื้นที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่จะมาจัดสร้างศูนย์พักพิงชาวโรฮิงญาในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ประชาชนในพื้นที่เองยังอยู่ในสภาพยากลำบาก
นายอนันต์ คลังจันทร์ หนึ่งในแกนนำชาวอำเภอชะอวด ที่ร่วมกันแสดงตัวในการคัดค้าน ระบุว่า ไม่ทราบมาก่อนเลยว่ามีการเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้เรื่อง และไม่ได้เห็นชอบด้วย ยืนยันว่าไม่ยอมรับศูนย์นี้มาในพื้นที่โดยเด็ดขาด ดังนั้น หากเป็นเช่นนี้จะประสานกับกลุ่มมวลชนแจ้งเรื่องนี้ให้รับรู้ และมาหาทางออกกัน ข้อเท็จจริงแล้วนั้นควรจะต้องมาทำประชาพิจารณ์กันเพราะเกี่ยวข้องกับคนในพื้นที่
