กระบี่ - นายทุนเรือยอชต์ต่างชาติยอมถอย หลังถูกชาวเรือหางยาวเกาะพีพีกดดันให้หยุดบริการขนผู้โดยสารนำเที่ยว แต่ขอขีดเส้น 3 เดือน เนื่องจากขายทัวร์ล่วงหน้าเรียบร้อย จากนั้นจะหันไปบริการด้านอื่นที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชาวเรือพีพี
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายมณทิพย์ นำพา ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ประกอบการเรือหางยาวเกาะพีพี ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ประมาณ 100 คน ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องขอให้ชาวต่างชาติรายหนึ่งที่เข้ามาดำเนินการธุรกิจเรือใบนำเที่ยวเกาะพีพี ให้หยุดบริการ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเรือหางยาวนำเที่ยวคนไทย จนเกิดมีปากเสียงกันระหว่างแกนนำกลุ่มเรือหางยาวเกาะพีพี และผู้ประกอบการชาวต่างชาติ จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาระงับเหตุ จากนั้นจึงแจ้งให้ทางจังหวัดทราบเพื่อหาทางยุติปัญหาที่เกิดขึ้น ต่อมา ได้เชิญตัวแทนเรือหางยางนำเที่ยวเกาะพีพี และผู้ประกอบการเรือยอชต์นำเที่ยวของชาวต่างชาติ เข้าร่วมประชุม โดยมี นายประเสริฐ วงษ์นา และนายสุชาติ กิตติธรกุล รองนายก อบต.อ่าว เข้าร่วมเจรจาหาข้อยุติ
ทั้งนี้ ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ กล่าวต่อว่า จากการเจรจาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าได้ข้อยุติ คือ ผู้ประกอบการเรือยอชต์ของชาวต่างชาติขอออกให้บริการต่ออีก 3 เดือน เนื่องจากให้เหตุผลว่า มีการขายทัวร์ล่วงหน้าไว้แล้ว และหลังจากครบ 3 เดือน ก็จะหันไปประกอบธุรกิจนำเที่ยวทางน้ำอย่างอื่นที่ไม่กระทบต่อผู้ประกอบการเรือหางยาวนำเที่ยวเกาะพีพี ซึ่งทางฝั่งผู้ประกอบการเรือหางยาวก็พอใจ จากนั้นจึงไม่มีการประท้วงเกิดขึ้นในที่สุด
สำหรับเรือยอชต์นำเที่ยวที่วิ่งให้บริการนำเที่ยวที่เกาะพีพีมีอยู่หลายลำ มีทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติ โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการพูดคุยขอความร่วมมือให้หยุดบริการนำเที่ยวในลักษณะการนำคนจากบนเกาะพีพีไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งรอบเกาะพีพี เนื่องจากเป็นการแย่งลูกค้าของผู้ประกอบการเรือหางยางนำเที่ยวเกาะพีพี ที่ไม่สามารถออกให้บริการในสถานที่ท่องเที่ยวห่างใกลจากเกาะได้ เนื่องจากเรือมีขนาดเล็ก โดยเรือยอชต์ทุกลำก็พร้อมใจกันหยุดให้บริการนำเที่ยวในลักษณะดังกล่าว เหลือเพียงเรือยอชต์ของนายบ็อบ เพียงลำเดียว แต่สุดท้ายก็สามารถพูดคุยกันได้ และทราบว่าจะให้บริการนำเที่ยวแบบอื่นที่ไม่กระทบต่อเรือหางยาว