ปัตตานี - ผลการตรวจสอบปลอกกระสุนปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุปล้นธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อ.มายอ จ.ปัตตานี พบก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุบางส่วนแล้ว
กรณีเหตุคนร้ายบุกเข้าปล้นรถขนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อ.มายอ จ.ปัตตานี จนเกิดการยิงต่อสู้กันทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย เจ้าหน้าที่ รปภ.ธนาคารถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง ออกมาระบุว่า จากการตรวจสอบปลอกระสุนของคนร้ายที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบได้ออกมาแล้ว โดยปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ก่อเหตุมาแล้ว 12 ครั้ง ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ทั้งยิงตำรวจ ทหาร และประชาชน รวมไปถึงเด็ก ส่วนปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ก่อเหตุมาแล้ว 27 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ทั้งยิงตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งชัดเจนว่าคนร้ายทั้งหมดเป็นกลุ่มแนวร่วม RKK ในพื้นที่ โดยมีแกนนำคนสำคัญร่วมก่อเหตุ และมีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า
ส่วนการติดตามไล่ล่าคนร้ายนั้น ขณะนี้หน่วยกำลังตำรวจ ทหาร ในพื้นที่ยังคงปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนผู้ต้องสงสัย 4 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปเข้ากระบวนการซักถามที่กรมทหารพรานที่ 41 จ.ยะลา คาดว่าคดีน่าจะคลี่คลายในไม่ช้า และน่าจะออกหมายจับได้ในเร็วๆ นี้
ขณะที่เอกสารซึ่งเขียนเป็นภาษาอาหรับที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในตัวของ นายมะตอเฮ มุสลีมิน คนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิตในวันเกิดเหตุนั้น หลังจากที่ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการแปล ระบุว่า เป็นคำปฏิญาณของกลุ่มขบวนการ จำนวน 10 ข้อ ประกอบด้วย
1.ปฏิบัติคุณงามความดีต่อพระเจ้า
2.เคารพและเชื่อฟังผู้นำ
3.ไม่เปิดเผยความลับแก่ศัตรู
4.ปฏิบัติตามความสามารถของแต่ละคน
5.ยึดมั่นในว่าจาและสัญญา
6.เข้าร่วมการอบรม
7.ไม่กระทำการเสื่อมเสียต่อการต่อสู้
8.น้อมรับการตักเตือน
9.เห็นแก่ประโยชน์ของการต่อสู้มากกว่าประโยชน์ส่วนตน
และ 10.เสียสละทรัพย์สิน และร่างกายเมื่อถึงคราวจำเป็น
กรณีเหตุคนร้ายบุกเข้าปล้นรถขนเงินของธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อ.มายอ จ.ปัตตานี จนเกิดการยิงต่อสู้กันทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย เจ้าหน้าที่ รปภ.ธนาคารถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง ออกมาระบุว่า จากการตรวจสอบปลอกระสุนของคนร้ายที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบได้ออกมาแล้ว โดยปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ก่อเหตุมาแล้ว 12 ครั้ง ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ทั้งยิงตำรวจ ทหาร และประชาชน รวมไปถึงเด็ก ส่วนปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ก่อเหตุมาแล้ว 27 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ทั้งยิงตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ซึ่งชัดเจนว่าคนร้ายทั้งหมดเป็นกลุ่มแนวร่วม RKK ในพื้นที่ โดยมีแกนนำคนสำคัญร่วมก่อเหตุ และมีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า
ส่วนการติดตามไล่ล่าคนร้ายนั้น ขณะนี้หน่วยกำลังตำรวจ ทหาร ในพื้นที่ยังคงปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนผู้ต้องสงสัย 4 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปเข้ากระบวนการซักถามที่กรมทหารพรานที่ 41 จ.ยะลา คาดว่าคดีน่าจะคลี่คลายในไม่ช้า และน่าจะออกหมายจับได้ในเร็วๆ นี้
ขณะที่เอกสารซึ่งเขียนเป็นภาษาอาหรับที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ในตัวของ นายมะตอเฮ มุสลีมิน คนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิตในวันเกิดเหตุนั้น หลังจากที่ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการแปล ระบุว่า เป็นคำปฏิญาณของกลุ่มขบวนการ จำนวน 10 ข้อ ประกอบด้วย
1.ปฏิบัติคุณงามความดีต่อพระเจ้า
2.เคารพและเชื่อฟังผู้นำ
3.ไม่เปิดเผยความลับแก่ศัตรู
4.ปฏิบัติตามความสามารถของแต่ละคน
5.ยึดมั่นในว่าจาและสัญญา
6.เข้าร่วมการอบรม
7.ไม่กระทำการเสื่อมเสียต่อการต่อสู้
8.น้อมรับการตักเตือน
9.เห็นแก่ประโยชน์ของการต่อสู้มากกว่าประโยชน์ส่วนตน
และ 10.เสียสละทรัพย์สิน และร่างกายเมื่อถึงคราวจำเป็น
