กระบี่ - ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ บุกรวบหัวโจกแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ก่อนขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุอีก 3 ราย ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน พร้อมของกลางรถมอเตอร์ไซค์ จำนวน 4 คัน ด้านผู้ต้องหารับสารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง จากนั้นนำไปขายต่อคันละ 5,000 บาท
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (30 พ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ พ.ต.ท.ชัชวาล นิลจันทร์ สว.สส.สภ.เมืองกระบี่ ร.ต.อ.สัญญา ธรรมรัตน์ รอง สว.สส. ร.ต.ต.นิรุตธ์ ดินแดง รอง สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ ร่วมแถลงผลการจับกุมตัว นายธรณินทร์ หรือบอย พิมพ์จันทร์ อายุ 23 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 16 ม.8 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ นายธีระ หรือบิ๊ก พิมพ์จันทร์ อายุ 21 ปี น้องชายของนายธรณินทร์ อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน นายบรรจง หรือกุ้ง ศรีวัฒนพงศ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้าบ้านเลขที่ 43 ม.6 ต.ก้านเหลือ อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น และนายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน หรือรับของโจร พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ จำนวน 3 คัน และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 จำนวน 1 คัน ซึ่งสามารถจับกุมได้ที่ร้านเมฆแก้ว-ทุ่งสงค้าไม้ ถ.เพชรเกษม ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่
ก่อนการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 56 นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก นางเพ็ญฤดี ขยันการ ว่า รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟีโน่ สีฟ้าขาว ถูกขโมยไป ขณะจอดซื้อของที่บริเวณตลาดนัดคลองแห้ง ม.3 ต.อ่าวนาง ประกอบกับมีการรับแจ้งเหตุรถหายอีกหลายพื้นที่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ออกสืบสวนหาตัวคนร้าย จนกระทั่งสืบทราบว่า หนึ่งในผู้ต้องหา คือ นายธรณินทร์ หรือบอย ซึ่งมีหมายจับของศาลกระบี่ ข้อหาบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พ.ค.56 ที่ผ่านมา
โดยผู้ก่อเหตุได้ยืนอยู่หน้าร้านเมฆแก้ว-ทุ่งสงค้าไม้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุม และสืบทราบอีกว่า นายธรณินทร์ มีพฤติกรรมลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จึงนำตัวตรวจค้นที่บ้านพักเพิ่มเติม พบรถจักรยานยนต์ของกลางที่ขโมยมา ก่อนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้อีก 3 ราย จากนั้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน หรือรับของโจร
ด้าน นายธรณินทร์ หรือบอย หนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนและพวกได้ร่วมกันขโมยรถจักรยานยนต์ตามที่ต่างๆ ในอำเภอเมืองกระบี่ โดยจะตระเวนออกหารถที่จอดตามที่สาธารณะ เลือกรถที่ไม่ล็อกคอ และเข็นออกมา จากนั้นจะให้เพื่อนร่วมแก๊งขับรถจักรยานยนต์อีกคัน แล้วให้คนซ้อนท้ายนำเท้าไปยันที่วางเท้าของรถคันที่ขโมยมาขับไปซุกซ่อนเอาไว้ตามบ้านพัก ก่อนนำมาตัดแปลง และนำไปขายให้พรรคพวก หรือเครือญาติในราคาคันละ 5,000 บาท ส่วนกรณีข่มขืนตามหมายจับของศาลกระบี่นั้น นายธรณินทร์ ให้การปฏิเสธ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งให้ผู้เสียหายมารับรถคืนที่ สภ.เมืองกระบี่