ฉันหายไปจากหมู่บ้าน
เสมือนว่าตายไปแล้วจากบ้านเกิด
มนุษย์ผู้ล่องลอยโดนกลืน ห่างออกจากรากเหง้า
ภาพเด็กผู้ชายอาบน้ำในนา เล่นโคลน ปรากฏ
ภาพรถไถเดินตามเก่าคร่ำสนิมเขรอะ
รถไถเก่าที่กดคลัตช์ ไม่สามารถบังคับทิศทางได้
ค่านิยม การศึกษาสูงเป็นเจ้าคนนายคน
ปรนเปรอ เลี้ยงลูกเยี่ยงเทวดา
สภาวการณ์ถีบส่งจากวิถีชนบท
กู้หนี้ ยืมสิน สุดกำลัง
ที่นา สวนปาล์ม สวนยาง สังเวยใบปริญญา
เซ่นด้วยหยาดเหงื่อ ร่างกาย และชีวิตของแม่
ไม่มีแม่ ไม่มีคนหว่านกล้า และปักดำ
พ่อขายรถไถไป ในราคาเศษเหล็ก
หันไปจ้างรถไถใหญ่ไถคราดนา
บางปีให้คนรู้จักทำ แล้วค่อยแบ่งข้าว
บางปีทำเอง แต่ต้องจ้างรถไถนั่ง
ข้าวในยุ้งฉางขนออกขาย และกินร่อยหรอ
“นาทอน” ผืนนาผืนสุดท้ายของเรา
ภาพพ่อเดินตะคุ่มๆ ในทุ่งนา
ถอนกอข้าวแน่น ไปปักตรงตมไร้ต้นกล้า
“ปีนี้มืดนะที่จะได้ข้าว ทำไมถึงทำนาหว่าน”
“ไถใหม่ไหม ทำนาดำ ที่น้ำขังต้นกล้าก็ไม่ขึ้น” ฉันเสนอ
“ไม่ เอาแบบนี้แหละ” คำพูดห้วนๆ ของพ่อ ฉันเข้าใจ
“ความคิดของมึง ไม่ใช่ความคิดของคนที่นี่..
มึงลืมการเตะบอลคลุกเทือกในทุ่งนา เก็บลูกยางไปขาย
มึงเห็นแก่ตัวเหมือนคนในเมือง” เพื่อนเคยวิพากษ์หนักๆ
ฉันหาได้ปฏิเสธ ทว่า กลับยอมรับความเป็นจริง
ฝันแรงกล้า อยากมีปีกเยี่ยงเสรีชน
ติสท์แดก แหกคอก ดื้อรั้นเกินใครกำหนดทิศทาง
เลือกเป็นอิสระ ยอมรับกับสภาวะไส้แห้ง
ทางสายที่เลือกถูกแล้ว ทำแล้วตอบสนองจริต
ไม่ยอมอยู่ในการใช้ชีวิตภายใต้ระบบครอบงำ
ความฝันมากมาย ที่ไม่ปรากฏจริง
พี่คนหนึ่งเคยบอก ว่าฉันมีศักยภาพมหาศาล
ผลงานที่เห็นแค่ 1 ใน 10 เหมือนมีบางอย่างกดทับ
ภาพรถไถเดินตามเต็มไปด้วยสนิม ปรากฏอีกครั้ง
ชายนิรนามโลว์โพรไฟล์ ในความเบลอ
ไม่มีแรงขับเคลื่อน คนตายเดินได้
รถไถคันนั้นไม่อาจซื้อคืนกลับมา
แต่ไฟในฉันอาจจุดติดขึ้นมาอีกครั้ง
กลับสู่รากเหง้า จิตวิญญาณอาจคืนกลับมา
มนุษย์ที่พอมีพรสวรรค์บ้าง เรียนรู้จากชายผู้หนึ่ง
สัดส่วนความสำเร็จการแสวง มากกว่าพรสวรรค์มาก
รู้ แต่ยังดื้อ เกียจคร้าน ไม่ปฏิบัติจริง
บาดแผลบทเรียน ประสบการณ์จริงสอน
เปลือกกะลาชั้นหนึ่ง ถูกกะเทาะหลุด
“ความจริงจะปลอดปล่อยคุณให้เป็นอิสระ”
วาทะหนังเรื่องหนึ่งผุดขึ้นในสำนึกปัจจุบันขณะ
ปรัชญเกียรติ ว่าโร๊ะ