ปัตตานี - ลูกสาววัย 9 ขวบ ที่ถูกยิงพร้อมแม่ทหารพรานหญิงยังอาการสาหัส ส่วนลูกชาย และแม่อาการปลอดภัยแล้ว ลูกชายเพิ่งทราบข่าวว่าแม่เสียชีวิตอยู่ในอาการซึมเศร้า ความคืบหน้าคดีมุ่งปมปัญหาครอบครัว เนื่องจากผู้ตายเพิ่งเลิกกับสามี และมีผู้ชายมาพัวพัน จนท.เร่งติดตามสามีมาตรวจ DNA ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ยังไม่ทิ้งเหตุไฟใต้
จากเหตุคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง ส.ต.หญิง อานัสตาเฟีย ดือมาลี อายุ 35 ปี สังกัด ผบ.หมู่ ทพ.หญิง กรมทหารพรานที่ 44 เสียชีวิต ขณะขับรถยนต์เก๋งส่วนตัวพาลูก 2 คน และมารดากลับจากเยี่ยมญาติในพื้นที่ ต.ทุ่งคล้า ซึ่งทั้ง 3 ราย ยังได้ถูกลูกหลงบาดเจ็บไปด้วย เหตุเกิดบนถนนภายในหมู่บ้านพอเหมาะ ม.1 ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.) นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ รองผู้ว่าราชการ จ.ปัตตานี เดินทางไปที่โรงพยาบาลปัตตานี เพื่อเยี่ยมดูอาการพร้อมกับมอบกระเช้า และให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน โดยแพทย์ระบุอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บว่า นางแมะแย อาแซ อายุ 53 ปี มารดาถูกยิงที่ขาซ้าย ทำให้กระดูกแตก และหัก แพทย์ได้ใช้เหล็กดามไว้ ด.ช.ซารีฟ วามะ อายุ 11 ปี ถูกยิงที่ขาซ้ายจนเป็นแผล 3 แห่ง โดยตลอดคืนที่ผ่านมา แพทย์ได้ทำการผ่าตัดช่วยเหลือจนอาการปลอดภัยแล้ว และตัวของ ด.ช.ซารีฟเอง ก็เพิ่งทราบว่ามารดาได้เสียชีวิต ซึ่งก็ทำให้อยู่ในอาการเศร้าสลดเสียใจ ไม่พูดกับใคร
ส่วน ด.ญ.อิฟฟารา วามะ อายุ 9 ปี น้องสาว ซึ่งอาการยังคงสาหัสถูกยิงเข้าที่แขนขวา และหน้าอกทะลุปอด ซี่โครงหัก 1 ซี่ โดยแพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และยังไม่ทราบว่าแม่เสียชีวิตไปแล้ว
ด้าน นางแมะแย มารดาของผู้ตาย เผยถึงเหตุการณ์ว่ารู้สึกตกใจมาก ซึ่งขณะนั้นลูกสาวได้ลาพักเพื่อกลับมาอยู่กับลูกๆ และได้พากันไปเที่ยวน้ำตก และขากลับบ้านได้แวะเยี่ยมญาติ ระหว่างทางก็เห็นคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ตามมาแล้วยิง และไม่คิดว่าเหตุการณ์ร้ายๆ อย่างนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง และถึงแม้ว่าลูกสาวของตนจะเป็นทหาร แต่เขาก็เป็นผู้หญิง และยังเป็นแม่ที่ต้องหาเลี้ยงลูกๆ อีก 2 คน สงสารหลานทั้ง 2 คน ที่ต่อจากนี้ไปต้องขาดแม่
ส่วนประเด็นสาเหตุเจ้าหน้าที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะเกี่ยวกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้ตายได้มีปัญหาเกิดปากเสียงกับ นายอาดือนัน วามะ สามี ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 42/1 ม.2 ค.ปะเสยาวอ อ.สายบุรี ซึ่งเป็นอดีตทหารพรานในสังกัดเดียวกัน ถูกปลดออกเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา จึงต้องแยกกันอยู่แต่ยังไม่ถึงขั้นหย่า และระยะหลัง สามีพยายามจะขอคืนดีแต่ผู้ตายไม่ยอม เพราะเริ่มมีใจให้ผู้ชายคนใหม่ ถึงกับยอมย้ายออกไปซื้อบ้านหลังใหม่ เลขที่ 3/33 ม.2 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง และย้ายครอบครัวเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่าน่าจะเกิดจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งขณะนี้พนักงานสืบสวนกำลังติดตามสามีมาให้ปากคำ และตรวจสอบ DNA ว่าตรงกันหรือไม่ แต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นอื่นๆ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนหน้าดีทำให้มีผู้ชายมาพัวพันเยอะ
