พังงา - ทะเลอันดามันคลื่นลมแรงซัดชายหาดบ้านบางเนียง จ.พังงา ระยะกว่า 13 กิโลเมตร เสียหายยับ นายกเทศบาลตำบลคึกคัก เข้าตรวจสอบความเสียหายแล้ว เสนอจังหวัดหาทางแก้ไข
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (14 พ.ค.) นายสวัสดิ์ ตันเก่ง นายกเทศบาลตำบลคึกคัก อ.ตะกัวป่า จ.พังงา พร้อมด้วย นายกิตติพงษ์ กิตภูวดล รองนายกเทศบาลตำบลคึกคัก และเจ้าหน้าที่โยธาเทศบาล เข้าตรวจสอบริมชายหาดบ้านบางเนียง บริเวณ หมู่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ซัดเข้าชายหาดได้รับความเสียหายอย่างหนัก ระยะทางกว่า 13 กิโลเมตร ส่งผลทำให้น้ำได้กัดเซาะกำแพงริมชายหาดได้รับความเสียหายเป็นระยะยาว บางโรงแรมอาคารด้านหน้าที่ติดกับชายหาดทรุดตัวพังจำนวนมาก
ผู้ประกอบการต้องใช้กระสอบทรายทำเป็นแนวเขื่อนเพื่อกั้นน้ำไม่ให้ซัดเข้ามา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาในเบื้องต้น แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงของคลื่นที่ซัดกระแทกเข้าหาฝั่งได้ อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถที่จะลงไปเล่นน้ำริมชายหาดได้ เพราะอาจจะเกิดอันตราย ซึ่งทางเทศบาลตำบลคึกคักได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่โยธาเข้าตรวจสอบในเบื้องต้น พร้อมทั้งนำเรื่องนี้เสนอไปยังจังหวัดพังงา เพื่อหาทางแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน และผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ
นายชาตรี เหล่าปิยะสกุล เจ้าของโรงแรมไอยรา วิลล่า กล่าวว่า คลื่นขนาดใหญ่ได้ซัดเข้าหาฝั่งมีความสูงมาก นักท่องเที่ยวที่มาพักตามโรงแรมไม่สามารถเดินเล่นริมชายหาดได้ เนื่องจากน้ำได้ซัดขึ้นมาริมชายหาดเป็นระยะทางกว่า 13 กิโลเมตร ทำให้หน้าหาดหายไป ซึ่งก่อนนี้ชายหาดอยู่ห่างจากฝั่งไปประมาณ 40 กิโลเมตร น้ำได้กัดเข้ามา ทำให้ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ จึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ปัญหาโดยการทำแนวเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซัดเข้ามาแรงกว่านี้
ส่วนนางวารุณี คมกล้า เจ้าของโรงแรม The Shambhala Khaolak Resort กล่าวว่า น้ำทะเลที่ขึ้นสูงในขณะนี้ทำให้ไม่มีที่ให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นบริเวณชายหาด ไม่เหมือนช่วงก่อนเกิดคลื่นสึนามิ เมื่อปี 47 ชายหาดบริเวณนี้จะมีความยาวลงไปในทะเลกว่า 40 เมตร แต่หลังจากเกิดคลื่นสึนามิ น้ำทะเลได้กัดเซาะชายหาดไปมาก จนมีเสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวว่าไม่มีหน้าหาดให้เดินเล่น ขณะนี้ทางผู้ประกอบการได้ช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น โดยการนำกระสอบทรายมาทำเป็นแนวกั้นคลื่นเอง ซึ่งน้ำได้กัดเซาะพื้นล่างหน้าโรงแรมอย่างรวดเร็ว ทางเทศบาลคึกคัก และพนักงานโรงแรมได้เร่งนำกระสอบทรายมาทำเขื่อนกั้นแต่ก็ไม่อยู่ เนื่องจากกระแสน้ำแรงมาก จึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเข้ามาแก้ปัญหาให้นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน
ขณะที่นายสวัสดิ์ ดันเก่ง นายกเทศบาลตำบลคึกคัก กล่าวว่า จากการที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และผู้ประกอบการโรงแรม เรื่องปัญหาน้ำทะเลสูงกัดเซาะชายฝั่งเป็นระยะทางกว่า 13 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลได้ลงมาตรวจสอบ พบว่าเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงจนทำให้มีคลื่นสูง และกัดเซาะริมชายหาดอย่างแรง จนทำให้นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนไม่สามารถลงไปเล่นน้ำทะเลได้เลย ซึ่งทางเทศบาลได้รายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้โดยด่วน แต่ถ้าล่าช้ากว่านี้กลัวว่าปัญหาที่ตามมาจะทำให้อาคารโรงแรมที่อยู่ติดกับชายหาดจะทรุดตัวลงมา และได้รับความเสียหายอย่างหนักแน่นอน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (14 พ.ค.) นายสวัสดิ์ ตันเก่ง นายกเทศบาลตำบลคึกคัก อ.ตะกัวป่า จ.พังงา พร้อมด้วย นายกิตติพงษ์ กิตภูวดล รองนายกเทศบาลตำบลคึกคัก และเจ้าหน้าที่โยธาเทศบาล เข้าตรวจสอบริมชายหาดบ้านบางเนียง บริเวณ หมู่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ซัดเข้าชายหาดได้รับความเสียหายอย่างหนัก ระยะทางกว่า 13 กิโลเมตร ส่งผลทำให้น้ำได้กัดเซาะกำแพงริมชายหาดได้รับความเสียหายเป็นระยะยาว บางโรงแรมอาคารด้านหน้าที่ติดกับชายหาดทรุดตัวพังจำนวนมาก
ผู้ประกอบการต้องใช้กระสอบทรายทำเป็นแนวเขื่อนเพื่อกั้นน้ำไม่ให้ซัดเข้ามา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาในเบื้องต้น แต่ก็ไม่สามารถต้านแรงของคลื่นที่ซัดกระแทกเข้าหาฝั่งได้ อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถที่จะลงไปเล่นน้ำริมชายหาดได้ เพราะอาจจะเกิดอันตราย ซึ่งทางเทศบาลตำบลคึกคักได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่โยธาเข้าตรวจสอบในเบื้องต้น พร้อมทั้งนำเรื่องนี้เสนอไปยังจังหวัดพังงา เพื่อหาทางแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน และผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ
นายชาตรี เหล่าปิยะสกุล เจ้าของโรงแรมไอยรา วิลล่า กล่าวว่า คลื่นขนาดใหญ่ได้ซัดเข้าหาฝั่งมีความสูงมาก นักท่องเที่ยวที่มาพักตามโรงแรมไม่สามารถเดินเล่นริมชายหาดได้ เนื่องจากน้ำได้ซัดขึ้นมาริมชายหาดเป็นระยะทางกว่า 13 กิโลเมตร ทำให้หน้าหาดหายไป ซึ่งก่อนนี้ชายหาดอยู่ห่างจากฝั่งไปประมาณ 40 กิโลเมตร น้ำได้กัดเข้ามา ทำให้ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ จึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ปัญหาโดยการทำแนวเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซัดเข้ามาแรงกว่านี้
ส่วนนางวารุณี คมกล้า เจ้าของโรงแรม The Shambhala Khaolak Resort กล่าวว่า น้ำทะเลที่ขึ้นสูงในขณะนี้ทำให้ไม่มีที่ให้นักท่องเที่ยวเดินเล่นบริเวณชายหาด ไม่เหมือนช่วงก่อนเกิดคลื่นสึนามิ เมื่อปี 47 ชายหาดบริเวณนี้จะมีความยาวลงไปในทะเลกว่า 40 เมตร แต่หลังจากเกิดคลื่นสึนามิ น้ำทะเลได้กัดเซาะชายหาดไปมาก จนมีเสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวว่าไม่มีหน้าหาดให้เดินเล่น ขณะนี้ทางผู้ประกอบการได้ช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น โดยการนำกระสอบทรายมาทำเป็นแนวกั้นคลื่นเอง ซึ่งน้ำได้กัดเซาะพื้นล่างหน้าโรงแรมอย่างรวดเร็ว ทางเทศบาลคึกคัก และพนักงานโรงแรมได้เร่งนำกระสอบทรายมาทำเขื่อนกั้นแต่ก็ไม่อยู่ เนื่องจากกระแสน้ำแรงมาก จึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเข้ามาแก้ปัญหาให้นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน
ขณะที่นายสวัสดิ์ ดันเก่ง นายกเทศบาลตำบลคึกคัก กล่าวว่า จากการที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และผู้ประกอบการโรงแรม เรื่องปัญหาน้ำทะเลสูงกัดเซาะชายฝั่งเป็นระยะทางกว่า 13 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลได้ลงมาตรวจสอบ พบว่าเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงจนทำให้มีคลื่นสูง และกัดเซาะริมชายหาดอย่างแรง จนทำให้นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนไม่สามารถลงไปเล่นน้ำทะเลได้เลย ซึ่งทางเทศบาลได้รายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้โดยด่วน แต่ถ้าล่าช้ากว่านี้กลัวว่าปัญหาที่ตามมาจะทำให้อาคารโรงแรมที่อยู่ติดกับชายหาดจะทรุดตัวลงมา และได้รับความเสียหายอย่างหนักแน่นอน
