รวบอดีตทหารพรานพิการ เปิดโอเกะร้านชำบังหน้าขายยาบ้า

ตรัง - รวบอดีตทหารพรานพิการ พี่ชายนักมวยดัง พร้อมเมียสาววัยรุ่น เปิดโอเกะร้านชำบังหน้าขายยาบ้า ส่วนคนงานต่อเติมบ้านให้ยาบ้าหักค่าแรงพร้อมถูกรวบเพิ่มอีก 4 คน โดนข้อหาเสพ

วันนี้ (10 พ.ค.) ที่ สภ.บ้านในควน พ.ต.ท.สิทธินันท์ สังขพันธุ์ สวญ.สภ.บ้านในควน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประดิษฐ์ สุรสินธุ์ สว.สส. และพ.ต.ท.บุญเจือ ลิ้มจุ้น สวป. ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสุธรรม พลสังข์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 ม.3 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว น.ส.เขมิกา ชุมเชื้อ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.11 ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง นายรัฐพงศ์ นาแจ้ง อายุ 29 ปี นายพงษ์เพชร หมื่นโพธิ์ อายุ 19 ปี นายพุทธรักษ์ ยะราสิทธิ์ อายุ 20 ปี และนายนเรศ ชูบาล อายุ 29 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 162 เม็ด เงินสด จำนวน 20,100 บาท รถจักรยานยนต์ซูซูกิ ทะเบียน คมว 432 ชลบุรี รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ฮอนด้าคลิก สีขาว ป้ายทะเบียน ขนธ 706 ตรัง ตู้แช่เย็น เครื่องเสียง

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สิทธินันท์ สังฆพันธุ์ สวญ.สภ.บ้านในควน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากทางตำรวจได้จับกุมผู้เสพในพื้นที่แล้วทำการสืบสวนขยายผล และขออนุมัติหมายค้นจากศาล จ.ตรัง เข้าตรวจค้นที่ร้านไนท์คาราโอเกะ เลขที่ 87 ม.3 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุธรรม โดยจากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 162 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระถางธูปภายในห้องนอน และขณะที่ตรวจค้นพบคนงานชาย 4 คน กำลังต่อเติมด้านหลังบ้านมีท่าทีพิรุธทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง จากการสอบถามให้การซัดทอดว่า ได้ถูก นายสุธรรม ว่าจ้างมาต่อเติมบ้าน โดยให้ยาบ้าแลกหักกับค่าจ้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด และจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดนำมาสอบสวนที่ สภ.บ้านในควน

จากการสอบสวน นายสุธรรม ให้การรับสารภาพว่า ยึดอาชีพจำหน่ายยาบ้ามานานหลายปีแล้ว และมีน้องชายเป็นนักชกมวยชื่อดัง แต่พอมีปัญหาหักหลังค้ายาบ้ากับเครือข่ายด้วยกัน ทำให้ตนถูกลอบยิง 2 ครั้ง จนขาพิการเดินไม่ได้จึงต้องออกมาเปิดร้านคาราโอเกะบังหน้าควบคู่กับการขายของชำ และขายยาบ้า สำหรับยาบ้าที่ยึดมาได้นั้น รับมาจากเอเยนต์ในพื้นที่ อ.ย่านตาขาว เม็ดละ 120 บาท จากนั้นจะนำมาจำหน่ายให้แก่ลูกค้าเม็ดละ 200 บาท โดยจะโทรศัพท์แล้วนำยาบ้าไปวางทิ้งไว้ที่ตู้โทรศัพท์และหลักกิโลข้างทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมจากทางเจ้าหน้าที่

โดยที่ผ่านมา เคยถูกตำรวจบุกเข้าตรวจค้นร้านหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ เพราะไม่มีหลักฐาน แต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาสองสามีภรรยาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนคนงานอีก 4 คน แจ้งข้อหาเสพยาบ้า