ชุมพร-เพลิงไหม้โบสถ์เก่าแก่ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย “หลวงปู่สงฆ์” วอดทั้งหลัง เบื้องต้นคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ไม่ทิ้งประเด็นลอบวางเพลิง-จุดธูปเทียนทิ้งไว้

เมื่อเวลาประมาณ 10.30.น. วันนี้ (8 พ.ค.) ร.ต.ท.จักรกริช ธรรมรักษา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้อุโบสถวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หมู่ 7 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงาน พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.เมืองชุมพร ทราบ ก่อนประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองชุมพร เทศบาลบางลึก เข้าทำการดับเพลิง และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร ที่เกิดเหตุพบว่า โบสถ์เก่าภายในวัด ซึ่งมีอายุราว 54 ปี มีกลุ่มควัน และเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากช่องลม และหลังคา
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ต้องพยายามกันชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่เข้าไปมุ่งดูเหตุการณ์จำนวนมากออก ประกอบกับภายในวัดกำลังจัดงานประจำปีซึ่งเป็นวันแรกของงาน ทำให้มีชาวบ้านร้านค้าจำนวนมาก ทำให้กีดขวางถนน และทางเข้าออกวัด รถดับเพลิงเข้าไปในพื้นที่เพื่อสกัดเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก กว่ารถดับเพลิงจะเข้าไปถึงโบสถ์ที่ไฟกำลังโหมลุกไหม้ได้ ก็พบว่าไฟได้ลุกลามไปไหม้โครงสร้างของโบสถ์ซึ่งเป็นไม้ที่เป็นเชื้อไฟอย่างดีจนขยายวงกว้าง

เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงจาก อบต. และเทศบาลที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยระดมกันดับไฟ ใช้เวลานานเวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ก็ทำให้โบสถ์พังเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงพระประธานที่ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงต้องปิดพื้นที่โดยรอบเพื่อกั้นไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่หวั่นเกรงว่าของมีค่าภายในจะสูญหาย
จากการสอบสวน นายวารี นะตาปา อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/2 หมู่ 4 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร คนดูแลความเรียบร้อยภายในวัด ให้การว่า ตนเองอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ เพียงเล็กน้อย ได้ยินเสียงชาวบ้านร้านค้าที่มาเปิดขายของในวัด ตะโกนว่าไฟไหม้โบสถ์ จึงวิ่งไปดูก็พบว่ามีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาจากด้านในของโบสถ์ ตนจึงใช้กุญแจไขประตูเพื่อจะเข้าไปดูก็พบว่าไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วที่บริเวณพัดลมข้างฝาผนังทั้งสองด้านของโบสถ์ ตนเองต้องวิ่งหนีออกมา และได้แจ้งไปทางตำรวจมาช่วยประสานรถดับเพลิงดังกล่าว

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิฐานว่า เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ไม่ทิ้งประเด็นลอบวางเพลิง และมาจากการจุดธูปเทียนทิ้งไว้ แล้วไฟเกิดตกไปติดพรมปูพื้นจนลุกลามไหม้ดังกล่าว ซึ่งต้องรอให้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียดเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
สำหรับวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของ จ.ชุมพร มานานกว่าร้อยปี และมีพระเกจิชื่อดัง คือ “หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร” ได้มรณภาพมาแล้วเกือบ 30 ปี ปัจจุบัน ทางวัดยังเก็บร่างที่ยังไม่เน่าเปื่อยไว้ในโลงแก้ว มีประชาชนทั่วทั้งประเทศให้ความเคารพศรัทธา จนเป็นที่กล่าวขานว่า “หลวงปู่สงฆ์วาจาสิทธิ์” มีความชำนาญในเรื่องสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน และเหรียญ รูปหล่อรุ่นต่างๆ ที่ปลุกเสกสมัยหลวงปู่สงฆ์ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะเหรียญรุ่น 05 เป็นที่นิยมเก็บสะสมของบรรดาเซียนพระ และประชานทั่วไปเป็นอย่างมาก

เมื่อเวลาประมาณ 10.30.น. วันนี้ (8 พ.ค.) ร.ต.ท.จักรกริช ธรรมรักษา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้อุโบสถวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หมู่ 7 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงาน พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.เมืองชุมพร ทราบ ก่อนประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองชุมพร เทศบาลบางลึก เข้าทำการดับเพลิง และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร ที่เกิดเหตุพบว่า โบสถ์เก่าภายในวัด ซึ่งมีอายุราว 54 ปี มีกลุ่มควัน และเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากช่องลม และหลังคา
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ต้องพยายามกันชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่เข้าไปมุ่งดูเหตุการณ์จำนวนมากออก ประกอบกับภายในวัดกำลังจัดงานประจำปีซึ่งเป็นวันแรกของงาน ทำให้มีชาวบ้านร้านค้าจำนวนมาก ทำให้กีดขวางถนน และทางเข้าออกวัด รถดับเพลิงเข้าไปในพื้นที่เพื่อสกัดเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก กว่ารถดับเพลิงจะเข้าไปถึงโบสถ์ที่ไฟกำลังโหมลุกไหม้ได้ ก็พบว่าไฟได้ลุกลามไปไหม้โครงสร้างของโบสถ์ซึ่งเป็นไม้ที่เป็นเชื้อไฟอย่างดีจนขยายวงกว้าง
เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงจาก อบต. และเทศบาลที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยระดมกันดับไฟ ใช้เวลานานเวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ก็ทำให้โบสถ์พังเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงพระประธานที่ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงต้องปิดพื้นที่โดยรอบเพื่อกั้นไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่หวั่นเกรงว่าของมีค่าภายในจะสูญหาย
จากการสอบสวน นายวารี นะตาปา อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/2 หมู่ 4 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร คนดูแลความเรียบร้อยภายในวัด ให้การว่า ตนเองอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ เพียงเล็กน้อย ได้ยินเสียงชาวบ้านร้านค้าที่มาเปิดขายของในวัด ตะโกนว่าไฟไหม้โบสถ์ จึงวิ่งไปดูก็พบว่ามีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาจากด้านในของโบสถ์ ตนจึงใช้กุญแจไขประตูเพื่อจะเข้าไปดูก็พบว่าไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วที่บริเวณพัดลมข้างฝาผนังทั้งสองด้านของโบสถ์ ตนเองต้องวิ่งหนีออกมา และได้แจ้งไปทางตำรวจมาช่วยประสานรถดับเพลิงดังกล่าว
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิฐานว่า เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ไม่ทิ้งประเด็นลอบวางเพลิง และมาจากการจุดธูปเทียนทิ้งไว้ แล้วไฟเกิดตกไปติดพรมปูพื้นจนลุกลามไหม้ดังกล่าว ซึ่งต้องรอให้ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียดเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
สำหรับวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของ จ.ชุมพร มานานกว่าร้อยปี และมีพระเกจิชื่อดัง คือ “หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร” ได้มรณภาพมาแล้วเกือบ 30 ปี ปัจจุบัน ทางวัดยังเก็บร่างที่ยังไม่เน่าเปื่อยไว้ในโลงแก้ว มีประชาชนทั่วทั้งประเทศให้ความเคารพศรัทธา จนเป็นที่กล่าวขานว่า “หลวงปู่สงฆ์วาจาสิทธิ์” มีความชำนาญในเรื่องสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน และเหรียญ รูปหล่อรุ่นต่างๆ ที่ปลุกเสกสมัยหลวงปู่สงฆ์ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะเหรียญรุ่น 05 เป็นที่นิยมเก็บสะสมของบรรดาเซียนพระ และประชานทั่วไปเป็นอย่างมาก