ตรัง - นายกเทศมนตรีตำบลคลองเต็ง อำเภอเมืองตรัง เร่งแก้ปัญหาถนนจุดตัดทางรถไฟที่มีมากถึง 5 จุด จนเกิดอุบัติเหตุชนตายเจ็บกันมาแล้วหลายครั้ง
ร.ต.ต.ชวน พลเดช นายกเทศมนตรีตำบลคลองเต็ง อำเภอเมืองตรัง กล่าวว่า ในเขตเทศบาลมีถนนจุดตัดทางรถไฟเป็นจำนวนมากถึง 5 จุด ได้แก่ จุดหน้าเทศบาลตำบลคลองเต็ง จุดหน้าวัดสิทธิชัยรังสรรค์ (วัดคลองเต็ง) จุดหน้าวัดราษฎร์รื่นรมย์ บ้านบ่อสีเสียด จุดบ้านปลายหมัน และจุดบ้านสวนมัน ซึ่งที่ผ่านมา เคยเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถที่วิ่งผ่านมาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุด เพิ่งทำให้หญิงชราวัย 60 ปี เสียชีวิต ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน จนชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนเข้ามา เพื่อให้ช่วยจัดหาเครื่องกั้นอัตโนมัติ แต่ก็เกินศักยภาพที่ทางเทศบาลจะดำเนินการได้อย่างทันที เนื่องจากมีงบประมาณในแต่ละปีค่อนข้างจะจำกัด เพราะต้องใช้เงินจุดละ 4,400,000 บาท หรือรวมทั้งหมดถึง 14 ล้านบาท ดังนั้น จึงได้ทำเรื่องของบประมาณไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่การจัดสร้างเครื่องกั้นอัตโนมัติยังไม่แล้วเสร็จ เทศบาลตำบลคลองเต็ง ได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ด้วยการจัดหาเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร หรือเจ้าหน้าที่ อพปร. มาช่วยยืนโบกธงให้แก่รถราที่สัญจรไปมาผ่านถนนจุดตัดทางรถไฟทั้งหมด เพียงแต่ปัญหาบางครั้งเกิดมาจากการที่รถไฟเข้าออกล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดมาก ทำให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นไม่สามารถมารอคอยได้ เพราะมีภารกิจอื่นๆ อีก
ขณะเดียวกัน ทางเทศบาลยังมีโครงการก่อสร้างถนนเลียบรางรถไฟ ระยะทางเกือบ 2 กม. จากหน้าเทศบาลไปถึงบ้านปลายหมัน เพื่อเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุถูกรถไฟชน และอาจมีการปิดถนนตรงวัดสิทธิชัยรังสรรค์ (วัดคลองเต็ง) เนื่องจากเป็นเนินสูงที่มองเห็นรถไฟผ่านไปมาได้ยาก ซึ่งขณะนี้ได้เร่งประสานไปยังการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดตรัง เพื่อย้ายท่อประปาริมทาง แล้วก่อสร้างถนนเลียบรางรถไฟให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด
ร.ต.ต.ชวน พลเดช นายกเทศมนตรีตำบลคลองเต็ง อำเภอเมืองตรัง กล่าวว่า ในเขตเทศบาลมีถนนจุดตัดทางรถไฟเป็นจำนวนมากถึง 5 จุด ได้แก่ จุดหน้าเทศบาลตำบลคลองเต็ง จุดหน้าวัดสิทธิชัยรังสรรค์ (วัดคลองเต็ง) จุดหน้าวัดราษฎร์รื่นรมย์ บ้านบ่อสีเสียด จุดบ้านปลายหมัน และจุดบ้านสวนมัน ซึ่งที่ผ่านมา เคยเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถที่วิ่งผ่านมาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุด เพิ่งทำให้หญิงชราวัย 60 ปี เสียชีวิต ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน จนชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนเข้ามา เพื่อให้ช่วยจัดหาเครื่องกั้นอัตโนมัติ แต่ก็เกินศักยภาพที่ทางเทศบาลจะดำเนินการได้อย่างทันที เนื่องจากมีงบประมาณในแต่ละปีค่อนข้างจะจำกัด เพราะต้องใช้เงินจุดละ 4,400,000 บาท หรือรวมทั้งหมดถึง 14 ล้านบาท ดังนั้น จึงได้ทำเรื่องของบประมาณไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่การจัดสร้างเครื่องกั้นอัตโนมัติยังไม่แล้วเสร็จ เทศบาลตำบลคลองเต็ง ได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ด้วยการจัดหาเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร หรือเจ้าหน้าที่ อพปร. มาช่วยยืนโบกธงให้แก่รถราที่สัญจรไปมาผ่านถนนจุดตัดทางรถไฟทั้งหมด เพียงแต่ปัญหาบางครั้งเกิดมาจากการที่รถไฟเข้าออกล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดมาก ทำให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นไม่สามารถมารอคอยได้ เพราะมีภารกิจอื่นๆ อีก
ขณะเดียวกัน ทางเทศบาลยังมีโครงการก่อสร้างถนนเลียบรางรถไฟ ระยะทางเกือบ 2 กม. จากหน้าเทศบาลไปถึงบ้านปลายหมัน เพื่อเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุถูกรถไฟชน และอาจมีการปิดถนนตรงวัดสิทธิชัยรังสรรค์ (วัดคลองเต็ง) เนื่องจากเป็นเนินสูงที่มองเห็นรถไฟผ่านไปมาได้ยาก ซึ่งขณะนี้ได้เร่งประสานไปยังการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดตรัง เพื่อย้ายท่อประปาริมทาง แล้วก่อสร้างถนนเลียบรางรถไฟให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด