สตูล - ผู้ว่าฯ สตูล ตั้งโต๊ะชี้แจงหลังชาวสตูลรวมตัวยื่นหนังสือคัดค้านการทุบสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล เพื่อทำลานวัฒนธรรม โดยระบุว่า อาคารดังกล่าวไม่เข้าข่ายโบราณสถาน และจะปรับเปลี่ยนเป็นลานวัฒนธรรมส่งเสริมทัศนียภาพของคฤหาสน์กูเด็นซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกัน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนเข้ามาใน จ.สตูล มากขึ้น
วันนี้ (2 พ.ค.) นายเชษฐ ชูช่วย กลุ่มชะลอการทำลายอาคารสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล พร้อมตัวแทนชาวบ้าน เดินทางเข้าพบ นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เพื่อเข้ายื่นหนังสือขอชะลอการรื้อทำลายอาคารสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล เพราะไม่อยากให้มีการรื้อถอนตัวอาคาร เนื่องจากเห็นว่าควรค่าการอนุรักษ์ไว้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ทั้งด้านประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรม โดยมีกลุ่มประชาชนในจังหวัดสตูลสนับสนุนไม่เห็นด้วยกับการรื้อถอนดังกล่าว จึงขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลชะลอการรื้อถอนไว้ เพื่อสอบถามประชาชนชาวสตูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวก่อน โดยมีการพูดคุยกับทาง นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ให้ห้องผู้ว่าฯ ศาลากลางจังหวัดสตูล
ทั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เชิญหัวหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล เจ้าหน้าที่ผังเมือง และเจ้าพนักงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.สตูล เข้าร่วมพูดคุยชี้แจ้งเรื่องการทุบทิ้งตัวอาคารสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล และให้ น.ส.ปาริชาต ช่วยบุญชู เจ้าพนักงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.สตูล ชี้แจ้งหลังประชุมเสร็จสิ้น
น.ส.ปาริชาต ช่วยบุญชู เจ้าพนักงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.สตูล กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลได้อธิบายต่อประชาชนว่า การรื้อทุบทิ้งสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูลหลังเก่า ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับคฤหาสน์กูเด็น เขตเทศบาลเมืองสตูล เพราะต้องการสร้างโครงการปรับปรุงลานวัฒนธรรม ประกอบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ คฤหาสน์กูเด็น ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่สู่มาตรฐานสากล ให้ จ.สตูล มีแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวกันมากขึ้น มิได้รื้อทำลายสถานที่ดังกล่าวให้สิ้นเปลืองงบประมาณ
หลังยื่นหนังสือให้ชะลอการคัดค้าน และเข้าพบพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมรับฟังการเจรจานั้น นายเชษฐ ชูช่วย กลุ่มชะลอการทำลายอาคารสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล กล่าวว่า เมื่อผู้ว่าฯ มาชี้แจง จึงทราบว่าจังหวัดสตูลรื้อทิ้งตัวอาคารสำนักงานที่ดิน ซึ่งเป็นตัวอาคารที่เก่าแก่มานาน 50 ปี รวมทั้งมิใช่สถานที่โบราณสถานจึงทำการรื้อเพื่อนำที่ดินไปพัฒนาเป็นโครงการลานวัฒนธรรมให้สวยงาม เพราะตัวอาคารอยู่ตรงข้ามคฤหาสน์กูเด็น ที่เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสู่มาตรฐานสากล เราจึงรับข้อเสนอนี้ได้ และจะร่วมไปชี้แจ้งให้แก่ชาวบ้านเข้าใจว่า ต่อไปเราจะมีลานวัฒนธรรมของคนสตูลที่สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้คนสตูล