ผบช.ศชต.เยี่ยมให้กำลังใจญาติเหยื่อกราดยิงร้านชำ ย้ำ จนท.ต้องดูแลเข้มงวดขึ้น

ปัตตานี - ผบช.ศชต.รุดเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุกราดยิงร้านขายของชำ เผยไม่ได้มองว่าเชื่อมโยงกับการเจรจาของรัฐบาลกับกลุ่ม BRN แต่เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น ทั้งป้องกันตัวเอง และดูแลประชาชนในพื้นที่

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (2 พ.ค.) พล.ต.ท.ไพทูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เดินทางเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงร้านขายของชำ เลขที่ 17/12 ม.5 บ้านโคกม่วง ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 พ.ค.)

โดย พล.ต.ท.ไพทูรย์ ชูชัยยะ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เก็บพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลในการจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหดโดยไม่ได้สนใจว่าเป็นเด็ก ผู้พิการ และผู้บริสุทธิ์ พร้อมทั้งยังได้ให้กำลังใจต่อญาติของผู้เสียชีวิต และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พล.ต.ท.ไพทูรย์ ชูชัยยะ ผบช.ศชต. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะว่าเหยื่อเป็นผู้บริสุทธิ์โดยไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย เพียงมานั่งอยู่บริเวณด้านหน้าร้านเท่านั้น คนร้ายก็มากราดยิงในลักษณะที่โหดเหี้ยมอย่างไม่มีทางสู้ ส่วนแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็ดำเนินการอย่างเต็มทีตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ผลตรวจของปืนก็ทราบแล้วว่า คนร้ายที่มากัน 4 คน ใช้อาวุธปืน 4 กระบอก และปืนที่ใช้ยิงก็มีประวัติในพื้นที่ทั้งหมด กำลังเร่งตรวจสอบอยู่ในขณะนี้

ส่วนเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในที่ขณะนี้เป็นผู้บริสุทธิ์นั้น ทางเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายเอง ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องดูแลพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพราะบุคลเหล่านี้ไม่มีอาวุธ ไม่มีทางสู้อยู่แล้ว ก็ต้องมีการแจ้งเตือนให้ระมัดระวังตัวเอง และทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาดูแลอีกทางหนึ่ง ซึ่งต้องเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทำงานหนักมากขึ้น และเพิ่มมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ การก่อเหตุจะเกี่ยวข้องกับการเจรจาของรัฐบาลกับกลุ่ม BRN หรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่เองไม่ได้มองถึงประเด็นเรื่องดังกล่าว ซึ่งการเจรจาก็เป็นส่วนหนึ่ง และการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ตัวเจ้าหน้าที่เองก็ต้องป้องกันตัวเองอยู่แล้ว และก็ต้องเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งต้องพยายามแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบ