กระบี่ - อดีต รปภ.คิดสั้น ริเป็นโจร ทำทีซื้อทองก่อนฉกสร้อยหนัก 2 บาทวิ่งหนี ตำรวจไล่ล่า 8 กิโลเมตร จับได้พร้อมของกลาง
เวลา 13.40 น. วันนี้ (1 พ.ค.) พ.ต.ท.อานนท์ ฮ่องตระกูล สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำ จากร้านทองเยาวราช ภายในเขตเทศบาลตำบลทรายขาว อ.คลองท่อม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว ผกก. พ.ต.อ.บรรลือ ชูวิทย์ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ และ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามไล่ล่า หลังทราบว่าคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทาง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ อยู่ย่านใจกลางตลาด ภายในร้านพบ นายอัครเดช เขียวทองจันทร์ อายุ 39 ปี และ น.ส.กิ่งแก้ว กาบแก้ว อายุ 39 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของร้านทองเยาวราช เลขที่ 99/9 ม.2 ต.ทรายขาว ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้เปิดร้านขายทองตามปกติ ได้มีชายอายุประมาณ 40 ปี ได้เข้ามาทำทีซื้อทองโดยขอดูสร้อยหนัก 1 บาท 2 เส้น รวม 2 บาท จากนั้นเมื่อส่งทองให้เลือก คนร้ายได้ฉกพร้อมวิ่งหนีออกไปจากร้าน ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างร้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว นายอัครเดช ได้ใช้ปืน 9 มม. ยิงตามออกไป 3 นัด แต่กระสุนพลาด คนร้ายจึงขับรถมุ่งหน้าไปตามถนนเพชรเกษมไปทาง จ.ตรัง
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทรายขาว ได้ติดตามไล่ล่าพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยของคนร้ายขับไปตามถนนในหมู่บ้านที่หมู่ 7 ต.ทรายขาว ห่างจากร้านทองประมาณ 8 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวตรวจค้น คนร้ายได้ทิ้งรถแล้ววิ่งเข้าไปในสวนปาล์ม เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงสกัด ถูกขาข้างขวาบริเวณเหนือเข่า 1 นัด ได้บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมได้ในที่สุด
ทราบชื่อต่อมาคือ นายสามารถ หลานเพ็ง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ม.4 ต.คลองพน อ.คลองท่อม พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 2 เส้น และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน กรน 123 กระบี่ พร้อมตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และนำตัวไปทำการรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลคลองท่อม อาการปลอดภัยแล้ว
สอบสวน นายสามารถ ให้การว่า สาเหตุที่ได้คิดสั้นลงมือชิงทองภายในร้านทองครั้งนี้ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องหาเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียน และชุดนักเรียนให้ลูกอยู่ชั้น ป.2 ซึ่งกำลังจะเปิดเรียน ส่วนตนเคยเป็น รปภ.ตอนนี้ได้ลาออกแล้ว ไม่มีเงิน และเมียรับจ้างเก็บน้ำยางตามสวนยาง รายได้ไม่แน่นอน จึงได้คิดสั้นทำทีเข้าไปในร้านทอง และเมื่อได้โอกาสก็ฉกทองที่เจ้าของร้านตั้งไว้บนตู้หลบหนี แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับได้ในที่สุด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
เวลา 13.40 น. วันนี้ (1 พ.ค.) พ.ต.ท.อานนท์ ฮ่องตระกูล สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำ จากร้านทองเยาวราช ภายในเขตเทศบาลตำบลทรายขาว อ.คลองท่อม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมยศ สีหาบัว ผกก. พ.ต.อ.บรรลือ ชูวิทย์ รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ และ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามไล่ล่า หลังทราบว่าคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทาง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ อยู่ย่านใจกลางตลาด ภายในร้านพบ นายอัครเดช เขียวทองจันทร์ อายุ 39 ปี และ น.ส.กิ่งแก้ว กาบแก้ว อายุ 39 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของร้านทองเยาวราช เลขที่ 99/9 ม.2 ต.ทรายขาว ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้เปิดร้านขายทองตามปกติ ได้มีชายอายุประมาณ 40 ปี ได้เข้ามาทำทีซื้อทองโดยขอดูสร้อยหนัก 1 บาท 2 เส้น รวม 2 บาท จากนั้นเมื่อส่งทองให้เลือก คนร้ายได้ฉกพร้อมวิ่งหนีออกไปจากร้าน ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างร้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว นายอัครเดช ได้ใช้ปืน 9 มม. ยิงตามออกไป 3 นัด แต่กระสุนพลาด คนร้ายจึงขับรถมุ่งหน้าไปตามถนนเพชรเกษมไปทาง จ.ตรัง
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทรายขาว ได้ติดตามไล่ล่าพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยของคนร้ายขับไปตามถนนในหมู่บ้านที่หมู่ 7 ต.ทรายขาว ห่างจากร้านทองประมาณ 8 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวตรวจค้น คนร้ายได้ทิ้งรถแล้ววิ่งเข้าไปในสวนปาล์ม เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงสกัด ถูกขาข้างขวาบริเวณเหนือเข่า 1 นัด ได้บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมได้ในที่สุด
ทราบชื่อต่อมาคือ นายสามารถ หลานเพ็ง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ม.4 ต.คลองพน อ.คลองท่อม พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 2 เส้น และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน กรน 123 กระบี่ พร้อมตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และนำตัวไปทำการรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลคลองท่อม อาการปลอดภัยแล้ว
สอบสวน นายสามารถ ให้การว่า สาเหตุที่ได้คิดสั้นลงมือชิงทองภายในร้านทองครั้งนี้ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องหาเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียน และชุดนักเรียนให้ลูกอยู่ชั้น ป.2 ซึ่งกำลังจะเปิดเรียน ส่วนตนเคยเป็น รปภ.ตอนนี้ได้ลาออกแล้ว ไม่มีเงิน และเมียรับจ้างเก็บน้ำยางตามสวนยาง รายได้ไม่แน่นอน จึงได้คิดสั้นทำทีเข้าไปในร้านทอง และเมื่อได้โอกาสก็ฉกทองที่เจ้าของร้านตั้งไว้บนตู้หลบหนี แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับได้ในที่สุด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย