พัทลุง - ประธานกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เดินทางตรวจสอบข้อมูลหลังมีการนำเสนอข่าว “ควายไพร” วอนให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ชะลอการขายทอดตลาด แนะควรอนุรักษ์เป็นพ่อพันธุ์ ขณะเดียวกัน มีผู้ต้องการไถ่ชีวิตควายไพรด้วยเงินสูงถึง 120,000 บาท
วันนี้ (29 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า ที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด บ้านนาวง ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยังคงต้องดูแลควายไพรอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดได้จับกุม และยึดเป็นของกลางเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2554 และเตรียมขายทอดตลาดในวันที่ 10 พ.ค.ที่จะถึงนี้ แต่หลายฝ่ายเป็นห่วงในอนาคตของควายชื่อ “ไพร” ตัวดังกล่าว โดยได้แจ้งความจำนงขอไถ่ชีวิตควายไพรเป็นจำนวนมาก ทำให้วันนี้เจ้าหน้าที่เขตต้องวิ่งวุ่นกันตั้งแต่เช้า เพื่อรับโทรศัพท์ผู้มาติดต่อ
ในขณะที่ นายนริศ ขำนุรักษ์ ประธานกรรมาธิการที่ดิน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางตรวจสอบข้อมูล และควายไพร ซึ่งเป็นของกลาง หลังมีการนำเสนอข่าว และมีการคิดต่อขอไถ่ชีวิตควายไพรเป็นจำนวนมาก เบื้องต้น นายนริศ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการรู้สึกเป็นห่วงควายตัวดังกล่าว หากเกิดการขายทอดตลาดไปให้พ่อค้า หรือชาวบ้าน เกรงว่าควายไพรจะถูกนำไปกระทำผิดกฎหมายอีกครั้ง เนื่องจากดูรูปร่างแล้วเป็นควายหนุ่มที่ร่างกายแข็งแรง และเป็นที่ต้องการของประชาชน จึงอยากวอนให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้อำนาจในการชะลอขายทอดตลาดออกไปก่อน และมานั่งคุยตกลงเจรากันใหม่ เพื่อหาทางออกให้แก่ควายไพร ไม่ให้ถูกขายทอดตลอด และในวันนี้ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ก็ยังมีศักยภาพดูแลต่อไปได้
“ตนคิดว่า องค์กร หรือมูลนิธิน่าจะเป็นผู้ดูแลควายไพรตัวนี้ดีกว่า เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชาติ และประชาชนมากที่สุด ในการอนุรักษ์นำไปใช้เป็นพ่อพันธุ์” นายนริศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า จากที่มีการประเมินราคาควายไพรในการขายทอดตลาดมีการตั้งราคาไว้ที่ 25,000 บาท แต่วันนี้ มีผู้แจ้งความประสงค์จะขอไถ่ชีวิตควายตัวนี้สูงถึง 120,000 บาทแล้ว