ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เผาอีก 3 จุดที่กมลา ทั้งรถจักรยานยนต์ รถสามล้อพ่วง รวมทั้งร้านอาหาร นายอำเภอกะทู้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตั้งด่านสกัดตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ตส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบลงพื้นที่ตรวจติดตามหาตัวคนร้าย เผยทั้งจังหวัดเกิดเหตุมาแล้ว 9 ครั้ง จับไปแล้ว 2 ครั้ง ขณะที่เหตุเผารถ 8 คัน กำลังตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย คาดเป็นเรื่องชู้สาว
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรกมลา รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ 2 จุด ประกอบด้วย ถนนสายกมลา-ป่าตอง บริเวณเยื้องกับร้านช้างคลับ พบรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วง ป้ายทะเบียน กมน ภูเก็ต 718 ซึ่งจอดอยู่ใต้ต้นไม้บริเวณทางขึ้นเชิงเขา สภาพเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบพบบริเวณที่เกิดเหตุมีขวดแก้ว และของเก่าอยู่จำนวนหนึ่ง จุดที่ 2 อยู่บริเวณถนนกมลา-แหลมสน ตรงข้ามโครงการก่อสร้างโรงแรมแห่งหนึ่ง พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 สีดำ ป้ายทะเบียน กทว พังงา 580 ที่เจ้าของจอดทิ้งไว้ และไปทำงานก่อสร้าง ถูกไฟไหม้จนได้รับความเสียหายบางส่วน เนื่องจากจุดนี้ทางพนักงานโรงแรมที่เห็นเหตุการณ์ได้นำถังดับเพลิงมาฉีดเพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ส่วนจุดที่ 3 เป็นเหตุเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณริมถนนกมลา เยื้องกับภูเก็ตแฟนตาซี สภาพเพิงไม้หลังคามุงจากได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยรถดับเพลิงของ อบต.กมลา เข้าระดมฉีดน้ำเพื่อดับเพลิง
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.นนน พิทักษ์กุลธร พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.กมลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ทั้ง 3 จุด ในครั้งนี้ด้วย นายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอกะทู้ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ อส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งด่านตรวจสกัดที่บริเวณรอยต่อตำบลกมลา อ.กะทู้ และ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ทันที เพื่อสกัดจับบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
นายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอกะทู้ มีรถที่ได้รับความเสียหายจากการวางเพลิง และอุบัติเหตุไฟไหม้แล้ว จำนวน 22 คัน ซึ่ง 2 รายล่าสุด คือเหตุวางเพลิงเผารถจักรยานยนต์ 8 คัน ที่อิรวดีเก็ตโฮ่หยี่เต็ง และเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่กมลาวันนี้ 3 จุด ซึ่งในส่วนของเผารถจักรยานยนต์ 8 คันนั้น ขณะนี้เริ่มได้เบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้แล้ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว
ขณะที่ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์เผารถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า มีเหตุการณ์รถถูกเพลิงไหม้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งมากในรอบเดือนมีนาคม-เมษายน 2556 โดยมีรถที่ได้รับความเสียหายเกือบ 30 คัน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 ครั้ง คือ ในพื้นที่ ต.กมลา 1 ครั้ง และพื้นที่ ต.กะรน 1 ครั้ง นอกจากนั้น เหตุเกิดเพลิงไม้รถของคนทำสวนที่ทุ่งทองตรวจสอบพบเกิดจากอุบัติเหตุ ส่วนที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์วางเพลิงเผารถเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ โดยได้มอบหมายให้รองผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด และหาข่าวในพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย
พล.ต.ต.โชติ ยังได้กล่าวต่อไปว่า ฝากเตือนไปยังคน หรือกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุวางเพลิงเผารถของบุคคลอื่นนั้น ถ้าถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้จะได้รับโทษที่สูงมาก โดยจะต้องถูกดำเนินคดีฐานวางเพลิงเผาทรัพย์สินของผู้อื่นมีโทษจำคุก 7 ปี อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคนที่ก่อเหตุนั้น จากการตรวจสอบพฤติกรรมพบว่า จะวนเวียนก่อเหตุอยู่ในพื้นที่กมลา ป่าตอง ทุ่งทอง และเลยมาในพื้นที่เชิงทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบให้มากขึ้นเพื่อจับกุมคนเหล่านี้มาลงโทษให้ได้
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรกมลา รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ 2 จุด ประกอบด้วย ถนนสายกมลา-ป่าตอง บริเวณเยื้องกับร้านช้างคลับ พบรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วง ป้ายทะเบียน กมน ภูเก็ต 718 ซึ่งจอดอยู่ใต้ต้นไม้บริเวณทางขึ้นเชิงเขา สภาพเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบพบบริเวณที่เกิดเหตุมีขวดแก้ว และของเก่าอยู่จำนวนหนึ่ง จุดที่ 2 อยู่บริเวณถนนกมลา-แหลมสน ตรงข้ามโครงการก่อสร้างโรงแรมแห่งหนึ่ง พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 สีดำ ป้ายทะเบียน กทว พังงา 580 ที่เจ้าของจอดทิ้งไว้ และไปทำงานก่อสร้าง ถูกไฟไหม้จนได้รับความเสียหายบางส่วน เนื่องจากจุดนี้ทางพนักงานโรงแรมที่เห็นเหตุการณ์ได้นำถังดับเพลิงมาฉีดเพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ส่วนจุดที่ 3 เป็นเหตุเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณริมถนนกมลา เยื้องกับภูเก็ตแฟนตาซี สภาพเพิงไม้หลังคามุงจากได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยรถดับเพลิงของ อบต.กมลา เข้าระดมฉีดน้ำเพื่อดับเพลิง
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.นนน พิทักษ์กุลธร พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.กมลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ทั้ง 3 จุด ในครั้งนี้ด้วย นายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอกะทู้ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ อส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งด่านตรวจสกัดที่บริเวณรอยต่อตำบลกมลา อ.กะทู้ และ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ทันที เพื่อสกัดจับบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
นายวีระ เกิดศิริมงคล นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอกะทู้ มีรถที่ได้รับความเสียหายจากการวางเพลิง และอุบัติเหตุไฟไหม้แล้ว จำนวน 22 คัน ซึ่ง 2 รายล่าสุด คือเหตุวางเพลิงเผารถจักรยานยนต์ 8 คัน ที่อิรวดีเก็ตโฮ่หยี่เต็ง และเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่กมลาวันนี้ 3 จุด ซึ่งในส่วนของเผารถจักรยานยนต์ 8 คันนั้น ขณะนี้เริ่มได้เบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้แล้ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว
ขณะที่ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเหตุการณ์เผารถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า มีเหตุการณ์รถถูกเพลิงไหม้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งมากในรอบเดือนมีนาคม-เมษายน 2556 โดยมีรถที่ได้รับความเสียหายเกือบ 30 คัน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 ครั้ง คือ ในพื้นที่ ต.กมลา 1 ครั้ง และพื้นที่ ต.กะรน 1 ครั้ง นอกจากนั้น เหตุเกิดเพลิงไม้รถของคนทำสวนที่ทุ่งทองตรวจสอบพบเกิดจากอุบัติเหตุ ส่วนที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์วางเพลิงเผารถเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ โดยได้มอบหมายให้รองผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด และหาข่าวในพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย
พล.ต.ต.โชติ ยังได้กล่าวต่อไปว่า ฝากเตือนไปยังคน หรือกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุวางเพลิงเผารถของบุคคลอื่นนั้น ถ้าถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้จะได้รับโทษที่สูงมาก โดยจะต้องถูกดำเนินคดีฐานวางเพลิงเผาทรัพย์สินของผู้อื่นมีโทษจำคุก 7 ปี อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคนที่ก่อเหตุนั้น จากการตรวจสอบพฤติกรรมพบว่า จะวนเวียนก่อเหตุอยู่ในพื้นที่กมลา ป่าตอง ทุ่งทอง และเลยมาในพื้นที่เชิงทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบให้มากขึ้นเพื่อจับกุมคนเหล่านี้มาลงโทษให้ได้