ระนอง - หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี นำกำลังพล พร้อมผู้บริจาคสิ่งของ มอบบ้านให้ หนุ่มพลเมืองดี ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้อื่นขณะทะเลาะกันตัวเองถูกฟันจนขาพิการไม่สามารถทำงานได้ ภรรยาต้องทำงานรับจ้างทุกอย่างเพื่อเลี้ยงดูตันเอง และลูกอีก 5 คน
วันนี้ (21 เม.ย.) พ.อ.อุทิศ อนันตนานนท์ รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี นำกำลังพล พร้อมผู้บริจาคสิ่งของ เข้าร่วมมอบบ้านให้แก่ นายสุรพล รัชนิพนธ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.4 ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง หนุ่มพิการจากการทำความดี ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้อื่นที่ทะเลาะกันตนเองถูกฟันจนขาพิการ จนไม่สามารถทำงานได้ โดยภรรยาต้องทำงานรับจ้างทุกอย่างเพื่อเลี้ยงลูกอีก 5 คน
พ.อ.อุทิศ กล่าวว่า จากการที่กองทัพมีนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยให้ทหารแต่ละพื้นที่หาวิธีช่วยประชาชนในพื้นที่ตามความเดือดร้อน ซึ่งทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้ออกสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละพื้นที่ จากนั้นได้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากจน แต่เป็นคนดีของสังคม ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นหลังที่ 6 แล้ว
สำหรับ นายสุรพล จากการสืบประวัติทราบว่า ก่อนพิการเป็นคนดีชอบช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นที่รักใคร่ของชุมชน แม้ตัวเอง และครอบครัวจะมีฐานะยากจน มีลูกต้องเลี้ยงดูถึง 5 คน แต่เมื่อนายสุรพล เป็นผู้พิการภาระหน้าที่ในการหาเงินจึงมาตกอยู่ที่ภรรยาเพียงคนเดียว ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่แน่นอน ที่อยู่อาศัยเดิมก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะอยู่ได้ การมอบบ้านในครั้งนี้จึงเป็นการมอบความช่วยเหลือที่ยากจนแต่เป็นคนดีของสังคม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
วันนี้ (21 เม.ย.) พ.อ.อุทิศ อนันตนานนท์ รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี นำกำลังพล พร้อมผู้บริจาคสิ่งของ เข้าร่วมมอบบ้านให้แก่ นายสุรพล รัชนิพนธ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.4 ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง หนุ่มพิการจากการทำความดี ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้อื่นที่ทะเลาะกันตนเองถูกฟันจนขาพิการ จนไม่สามารถทำงานได้ โดยภรรยาต้องทำงานรับจ้างทุกอย่างเพื่อเลี้ยงลูกอีก 5 คน
พ.อ.อุทิศ กล่าวว่า จากการที่กองทัพมีนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยให้ทหารแต่ละพื้นที่หาวิธีช่วยประชาชนในพื้นที่ตามความเดือดร้อน ซึ่งทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้ออกสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละพื้นที่ จากนั้นได้ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากจน แต่เป็นคนดีของสังคม ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นหลังที่ 6 แล้ว
สำหรับ นายสุรพล จากการสืบประวัติทราบว่า ก่อนพิการเป็นคนดีชอบช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นที่รักใคร่ของชุมชน แม้ตัวเอง และครอบครัวจะมีฐานะยากจน มีลูกต้องเลี้ยงดูถึง 5 คน แต่เมื่อนายสุรพล เป็นผู้พิการภาระหน้าที่ในการหาเงินจึงมาตกอยู่ที่ภรรยาเพียงคนเดียว ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่แน่นอน ที่อยู่อาศัยเดิมก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะอยู่ได้ การมอบบ้านในครั้งนี้จึงเป็นการมอบความช่วยเหลือที่ยากจนแต่เป็นคนดีของสังคม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น