กรมพลังงานทดแทนฯ ให้ภูเก็ตนำร่องอนุรักษ์พลังงานในอาคารแบบสมัครใจ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จัดสัมมนาโครงการรณรงค์การอนุรักษ์พลังงานในอาคารรูปแบบสมัครใจ นำร่องที่ภูเก็ตเป็นแห่งแรก จากที่มีอาคารโรงแรมเป็นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ห้องแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายทวารัฐ สูตะบุตร รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ร่วมกับ ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมพบปะเชิญชวนผู้ประกอบการภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต (Road show) ภายใต้โครงการรณรงค์การอนุรักษ์พลังงานในอาคารรูปแบบสมัครใจ (Voluntary Agreement : VA) ปี 2556 ซึ่งทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) จัดขึ้น โดยเชิญองค์กรที่มีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม และมีความมุ่งมั่นด้านการลดใช้พลังงาน ให้เข้าร่วมเป็นเครือข่ายการอนุรักษ์พลังงานแบบสมัครใจ เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดการลดใช้พลังงาน และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศ

นายทวารัฐ กล่าวว่า สำหรับโครงการรณรงค์การอนุรักษ์พลังงานในอาคารรูปแบบสมัครใจนั้น ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ปีงบประมาณ 2553 มี 4 หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการนำร่องในปีแรก ต่อมา ในปีงบประมาณ 2554 มีผู้ประกอบการที่เป็นอาคารควบคุม และโรงงานควบคุมกว่า 70 บริษัท จำนวน 1,380 อาคาร และ 42 โรงงานเข้าร่วมโครงการ ดังนั้น การออกมาโรดโชว์จึงถือเป็นนิมิตหมายใหม่ที่หน่วยงานภาครัฐ อย่าง พพ. และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อเชิญชวนให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีบทบาทในด้านการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นที่ภูเก็ตเป็นแห่งแรก เนื่องจากมีกลุ่มผู้ประกอบการอาคาร และสถานที่ท่องเที่ยว ประกอบไปด้วย โรงแรม รีสอร์ต จำนวนมาก ซึ่งการเชิญชวนให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการนั้น เพื่อร่วมกันเป็นพันธมิตร และเครือข่ายคนคิดดี ทำดีที่จะร่วมกันลดใช้พลังงาน และร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการนำองค์กรไปสู่องค์กรสีเขียว ที่จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการอนุรักษ์พลังงาน และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

นายทวารัฐ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการจูงใจเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานภายในอาคารด้วยความสมัครใจตามแนวคิดของโครงการ VA ในปี 2556 นั้น ได้มีโครงการหลักๆ ไว้ 3 กิจกรรม ได้แก่ การจัดประชุมสีเขียว (Green meeting) โครงการ Eco Certification และโครงการ Zero Carbon ซึ่งหากผู้ประกอบการรายใดที่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ทั้ง 3 โครงการดังกล่าวได้ ก็จะมีการมอบใบประกาศเพื่อรับรองการเป็นองค์กรสีเขียวที่ยั่งยืนต่อไป โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีองค์กรต่างๆ สมัครเข้าร่วมประมาณ 50 ราย