ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวไทยเชื้อสายเนปาลพร้อมใจจัดตั้งมูลนิธิศรีภคะวัดธรรม สนาตน มันทีร์ (ไทย-เนปาล) ที่ภูเก็ต เพื่อเป็นองค์กรการกุศล ศูนย์กลางในการส่งเสริมสนับสนุนเผยแพร่แนวทางตามหลักศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และเพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับศาสนา รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรม และประเพณีที่ดีงาม
วันนี้ (19 เม.ย.) น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดมูลนิธิศรีภคะวัดธรรม สนาตน มันทีร์ (ไทย-เนปาล) ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 2 ซอยควนยาง ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีโดนัท อารยัน รักษาการเอกอัครราชทูตเนปาล ประจำประเทศไทย นายภาณุพงษ์ ลิมบูประเสริฐกุล ประธานมูลนิธิศรีภคะวัดธรรม สนาตน มันทีร์ (ไทย-เนปาล) หัวหน้าส่วนราชการ และชาวไทยเชื้อสายเนปาลที่อาศัยในภูเก็ต เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายภาณุพงษ์ ลิมบูประเสริฐกุล ประธานมูลนิธิศรีภคะวัดธรรม สนาตน มันทีร์ (ไทย-เนปาล) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ได้อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย และจังหวัดภูเก็ต บรรดาชาวไทยเชื้อสายเนปาลทุกคนล้วนตระหนัก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ตลอดจนทุกภาคส่วน รวมทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่ ชาวไทยทั้งมวลที่ได้ให้โอกาสแก่ชาวไทยเชื้อสายเนปาล ได้อยู่อาศัยบนผืนแผ่นดินนี้เฉกเช่นเดียวกับผืนแผ่นดินแม่ตลอดมา
ด้วยความตระหนัก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว บรรดาชาวไทยเชื้อสายเนปาล ทั้งในประเทศไทย และจังหวัดภูเก็ตทุกคน จึงได้ตั้งใจประกอบสัมมาอาชีพโดยสุจริต ด้วยความขยัน หมั่นเพียร อดทน อดออม และยึดหลักเทิดทูน กตัญญูต่อแผ่นดินไทย ภายใต้พระบรมโพธิสมภารขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อย่างมั่นคงเสมอมา
ชาวไทยเชื้อสายเนปาล ได้พร้อมใจกันจัดตั้งมูลนิธิศรีภคะวัดธรรม สนาตน มันทีร์ (ไทย-เนปาล) ขึ้น เพื่อเป็นองค์กรการกุศล และเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมสนับสนุนเผยแพร่แนวทางตามหลักศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และเพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับศาสนา รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมและประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามสืบไป ซึ่งปัจจุบัน มีสมาชิกรวมกันประมาณ 2,000 คน
สำหรับกิจกรรมของมูลนิธิฯ ที่ผ่านมา ได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์มากมาย เช่น การช่วยเหลือภัยพิบัติสึนามิ เหตุการณ์น้ำท่วมภาคกลาง และกรุงเทพฯ และมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยไม่มีการดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด