สุราษฎร์ธานี - ททท.เผยช่วงเทศกาลสงกรานต์นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกต่างเดินทางเข้ามา “สมุย-พะงัน-เกาะเต่า” ส่งผลยอดจองห้องพักกว่าร้อยละ 85 ขณะที่ “กุ้ยหลินเมืองไทย” ยอดจองเกือบเต็ม คาดเงินสะพัดในพื้นที่กว่า 300 ล้านบาท
นายภานุ วรมิตร ผอ.ททท.สนง.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. นั้น คึกคักอย่างมาก เนื่องจากมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ขณะที่ยอดจองห้องพักของเกาะสมุยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 85 ของจำนวนห้องพักประมาณกว่า 4 หมื่นห้อง ส่วนเกาะพะงันและเกาะเต่า แหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกนั้นมียอดจองแล้วประมาณร้อยละ 90 จากจำนวนห้องพักทั้ง 2 เกาะ ประมาณ 1.2 หมื่นห้อง
ส่วนยอดจองห้องพักเขตเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีโรงแรมระดับมาตรฐานจำนวนประมาณ 30 แห่งนั้น ขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 60 สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เขื่อนรัชชประภา อ.บ้านตาขุน หรือกุ้ยหลินเมืองไทย นั้น ขณะนี้มียอดจองแล้วกว่าร้อยละ 95 ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินมาเป็นครอบครัว และทัวร์เป็นหมู่คณะ
นายภานุ กล่าวอีกว่า ส่วนแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่านั้น ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ และสแกนดิเนเวีย ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือหน้าไฮซีซัน สัดส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 60 ส่วนนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย โดยเฉพาะจีน เกาหลี อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย นั้น จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30-35 นอกนั้นจะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก
ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนมากนั้น เนื่องจากระบบการคมนาคมที่สะดวก ทั้งทางบก และทางอากาศ ซึ่งมีสนามบินระดับนานาชาติถึง 2 แห่ง คือที่ อ.พุนพิน และ อ.เกาะสมุย โดยภาพรวมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดในพื้นที่จำนวนกว่า 300-400 ล้านบาทเลยทีเดียว
นายภานุ วรมิตร ผอ.ททท.สนง.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. นั้น คึกคักอย่างมาก เนื่องจากมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ขณะที่ยอดจองห้องพักของเกาะสมุยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 85 ของจำนวนห้องพักประมาณกว่า 4 หมื่นห้อง ส่วนเกาะพะงันและเกาะเต่า แหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกนั้นมียอดจองแล้วประมาณร้อยละ 90 จากจำนวนห้องพักทั้ง 2 เกาะ ประมาณ 1.2 หมื่นห้อง
ส่วนยอดจองห้องพักเขตเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีโรงแรมระดับมาตรฐานจำนวนประมาณ 30 แห่งนั้น ขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 60 สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น เขื่อนรัชชประภา อ.บ้านตาขุน หรือกุ้ยหลินเมืองไทย นั้น ขณะนี้มียอดจองแล้วกว่าร้อยละ 95 ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินมาเป็นครอบครัว และทัวร์เป็นหมู่คณะ
นายภานุ กล่าวอีกว่า ส่วนแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่านั้น ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ และสแกนดิเนเวีย ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือหน้าไฮซีซัน สัดส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 60 ส่วนนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย โดยเฉพาะจีน เกาหลี อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย นั้น จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30-35 นอกนั้นจะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก
ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวนมากนั้น เนื่องจากระบบการคมนาคมที่สะดวก ทั้งทางบก และทางอากาศ ซึ่งมีสนามบินระดับนานาชาติถึง 2 แห่ง คือที่ อ.พุนพิน และ อ.เกาะสมุย โดยภาพรวมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดในพื้นที่จำนวนกว่า 300-400 ล้านบาทเลยทีเดียว