นราธิวาส - แม่ทัพภาค 4 พบประธานอิสลามประจำ จ.นราธิวาส ขอแนวทางการทำงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ พร้อมเผยเหตุยิงบ้านที่ปรึกษารองนายกฯ ไม่เกี่ยวกับการเจรจากลุ่ม BRN
วันนี้ (9 เม.ย.) พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะรองแม่ทัพภาค 4 เดินทางเข้าพบปะ นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส และคณะทำงานโดยได้ร่วมพูดคุยที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้ เพื่อขอคำชี้แนะแนวทางการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ในฐานะที่แม่ทัพภาคที่เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่ง
จากการพูดคุย นายซาฟาอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส กล่าวเน้นย้ำถึงแนวทางการดำเนินงานของอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ถึงงานด้านมวลชน ซึ่งขอให้ พล.ท.สกล ชื่นตระกูล ยึดแนวทางการทำงานด้านมวลชนต่อไปเพื่อให้ใกล้ชิดกับชาวบ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด นอกจากนี้ ได้ย้ำถึงแนวทางของหลักศาสนาอิสลามว่าเป็นศาสนาที่ให้อภัย และรัก ความสันติ โดยมีการสอนให้มนุษย์รักกัน และไม่สอนให้ใช้ความรุนแรง
ส่วนด้าน นายอับดุลรอซัค อารี เลขาประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส กล่าวถึงแนวทางการดึงผู้กระทำผิดให้ออกมามอบตัวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการประสานจึงขอให้มีการแจ้งรายชื่อกลุ่มคนที่ถูกออกหมายจับตาม พ.ร.ก. เพื่อที่จะนำมาแสดงตนตลอดจนกลับตัวกลับใจ ทั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อไม่มีผู้ใดรู้นอกจากเจ้าหน้าที่
ด้าน พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า การเดินทางเข้าพบคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส ในครั้งนี้ เพื่อขอแนวทางในการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ โดยพร้อมที่จะดำเนินงานด้วยความยุติธรรมให้แก่ทุกฝ่ายส่วนการดำเนินการตามโครงการ “พาคนกลับบ้าน” ก็ยังคงดำเนินต่อไป
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นกับ นายนัจมุดดีน อูมา ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง โดยคนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่บ้านพักนั้น มองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องการต่อต้านไม่ให้มีการเจรจากับกลุ่ม BRN เนื่องจากก่อนที่จะมีการเจรจา เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วโดยให้มุ่งไปเรื่องของการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เป็นข่าว และเรื่องการเมืองท้องถิ่น
สำหรับการปรับแผนในการทำงานเพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่าได้เน้นย้ำไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาทุกส่วนให้เฝ้าระวังและดูแลตนเอง ตลอดจนคุ้มกันผู้บริสุทธิ์ และคณะวีไอพีที่ลงพื้นที่ให้ปลอดภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบ