รวมพลังบริสุทธิ์ญาลันนันบารูละหมาดฮายัตต้านความรุนแรงและยาเสพติด

ยะลา - มวลชนมุสลิมเครือข่ายโครงการญาลันนันบารู ของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. กว่า 500 คน ร่วมพิธีละหมาดฮายัตเพื่อขอให้ความสันติสุขเกิดในพื้นที่ 3 จชต. หลังคนร้ายก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ปลอดจากปัญหายาเสพติดโดยเร็ว

วันนี้ (23 มี.ค.) ที่บริเวณสนามเฮลิคอปเตอร์ ค่ายสิรินธร ภายในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ผู้นำศาสนา และมวลชนมุสลิมเครือข่ายโครงการญาลันนันบารูของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. จำนวนกว่า 500 คน ได้ร่วมพิธีละหมาดฮายัตเพื่อขอให้เอกองค์อัลลอฮ. (ซุบฮานาฮูวาตะอาลา) ทรงเมตตาประทานความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามวิถีและหลักการของศาสนาอิสลามหลังคนร้ายก่อเหตุสร้างความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และให้ปลอดจากปัญหายาเสพติดโดยเร็ว

โอกาสนี้ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวต้อนรับพร้อมพบปะกับเครือข่ายการแก้ปัญหายาเสพติดภาคประชาชน สำหรับการจัดพิธีละหมาดฮายัตเป็นกิจกรรมหนึ่งในงานสานใจสู่สันติ ครั้งที่ 2 ซึ่งศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมกับเครือข่ายการแก้ปัญหายาเสพติดภาคประชาชน ประกอบด้วย เครือข่ายโครงการมัสยิดสานใจป้องกันภัยยาเสพติด โครงการวัดสานใจป้องกันภัยยาเสพติด โครงการกองทุนแม่ของแผ่นดิน โครงการญาลันนันบารู โครงการปอเนาะสานใจป้องกันภัยยาเสพติด และนักเรียนอาสาป้องกันภัยยาเสพติด

จัดขึ้นเพื่อให้พี่น้องมุสลิมผู้ศรัทธาทุกคนที่ต้องการความสันติสุข และ ให้ปลอดจากปัญหายาเสพติดได้มาร่วมแสดงพลัง โดยร่วมกันละหมาดฮายัตตามหลักศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับฟังการเสวนาเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคประชาชนเพื่อสนับสนุนการสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อหาแนวทางในการร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ อันจะนำความสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่โดยเร็ว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 9 ปี ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก หากสถานการณ์เช่นนี้ยังดำเนินต่อไปจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และได้รับความอัตคัดขัดสนมากยิ่งขึ้น และด้วยปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่เป็นภัยคอยซ้ำเติมความรู้สึกของคนในพื้นที่ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามซึ่งตามบทบัญญัติของหลักศาสนาอิสลามเป็นของต้องห้าม ในวันนี้จึงได้มีการรวมพลังอันบริสุทธิ์ของชาวญาลันนันบารูร่วมกระทำพิธีละหมาดดังกล่าว