กระบี่ - โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ในจังหวัดกระบี่ จำนวน 13 โรง พร้อมเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยระบบไบโอแก๊ส และก๊าซชีวมวล ป้องกันผลกระทบจากประเทศพม่าหยุดจ่ายก๊าซในช่วงเดือนเมษายนนี้
นางสาวัน ตัน ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในจังหวัดกระบี่ จำนวน 13 โรง ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองด้วยก๊าซชีวภาพ หรือไบโอแก๊ส ซึ่งได้จากระบบบำบัดน้ำเสีย และก๊าซชีวมวลจากทะลายปาล์ม ได้มีการเตรียมความพร้อมเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงงาน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการสกัดน้ำมันปาล์มในช่วงที่พม่าจะหยุดจ่ายก๊าซ ในระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน 56 แล้ว
โดยทางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มส่วนใหญ่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองได้อย่างเพียงพอ และอีกส่วนหนึ่งก็ขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาก็ขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไปแล้ว จำนวน 24 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในชุมชนใกล้เคียงได้อีกด้วยหากระบบไฟฟ้า ของ กฟภ.ขัดข้อง
นางสาวัน กล่าวอีกว่า สำหรับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ในจังหวัดกระบี่ จำนวน 13 โรง ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เองนั้น เมื่อเดินเครื่องเต็มที่ก็จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงถึง 42 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 40 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าในจังหวัดกระบี่ คือ อยู่ที่ 100 เมกะวัตต์ ซึ่งในช่วงที่ประเทศพม่าหยุดจ่ายก๊าซ ก็คาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแต่อย่างใด หากโรงไฟฟ้าภาคใต้หยุดเดินเครื่องก็ยังสามารถเดินเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มได้ตามปกติ และยังสามารถเชื่อมเข้ากับระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้อีกด้วย
“อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอยากให้รัฐบาลหันมาส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทนในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าภาคใต้ จ.กระบี่ ที่เดินเครื่องด้วยน้ำมันเตา ซึ่งเป็นระบบเชื้อเพลิงเหลว สามารถนำน้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงทดแทนได้ โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทั้งหมดในจังหวัดกระบี่มีกำลังผลิตรวมกว่า 6 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งถือเป็นปริมาณที่มาก ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบในประเทศก็เกินสต๊อกมีอยู่ถึง 3.5 แสนตัน หากไม่มีการระบายออก ก็จะส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรในอนาคต” ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่กล่าว
นางสาวัน ตัน ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในจังหวัดกระบี่ จำนวน 13 โรง ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองด้วยก๊าซชีวภาพ หรือไบโอแก๊ส ซึ่งได้จากระบบบำบัดน้ำเสีย และก๊าซชีวมวลจากทะลายปาล์ม ได้มีการเตรียมความพร้อมเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงงาน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการสกัดน้ำมันปาล์มในช่วงที่พม่าจะหยุดจ่ายก๊าซ ในระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน 56 แล้ว
โดยทางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มส่วนใหญ่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองได้อย่างเพียงพอ และอีกส่วนหนึ่งก็ขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งที่ผ่านมาก็ขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไปแล้ว จำนวน 24 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ ยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในชุมชนใกล้เคียงได้อีกด้วยหากระบบไฟฟ้า ของ กฟภ.ขัดข้อง
นางสาวัน กล่าวอีกว่า สำหรับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ในจังหวัดกระบี่ จำนวน 13 โรง ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เองนั้น เมื่อเดินเครื่องเต็มที่ก็จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้สูงถึง 42 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 40 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าในจังหวัดกระบี่ คือ อยู่ที่ 100 เมกะวัตต์ ซึ่งในช่วงที่ประเทศพม่าหยุดจ่ายก๊าซ ก็คาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแต่อย่างใด หากโรงไฟฟ้าภาคใต้หยุดเดินเครื่องก็ยังสามารถเดินเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มได้ตามปกติ และยังสามารถเชื่อมเข้ากับระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้อีกด้วย
“อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอยากให้รัฐบาลหันมาส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทดแทนในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าภาคใต้ จ.กระบี่ ที่เดินเครื่องด้วยน้ำมันเตา ซึ่งเป็นระบบเชื้อเพลิงเหลว สามารถนำน้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงทดแทนได้ โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทั้งหมดในจังหวัดกระบี่มีกำลังผลิตรวมกว่า 6 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งถือเป็นปริมาณที่มาก ขณะที่น้ำมันปาล์มดิบในประเทศก็เกินสต๊อกมีอยู่ถึง 3.5 แสนตัน หากไม่มีการระบายออก ก็จะส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรในอนาคต” ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่กล่าว