ตรัง - ยังเกิดไฟป่าขึ้นอีกเป็นบางจุดในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม หลังลุกไหม้ต่อเนื่องกันมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ทำให้ป่าเสม็ดขาวแห่งใหญ่ของทะเลตรัง เสียหายไปแล้วเกือบ 850 ไร่
วันนี้ (22 มี.ค.) นายมโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปดับไฟป่าที่ยังคงลุกไหม้อยู่อีกเป็นบางจุดในป่าเสม็ดขาว และไม้นานาชนิด ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และเขตทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านหาดยาว ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งไฟป่าได้ลุกไหม้มาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว
โดยเฉพาะในช่วงระหว่างวันที่ 19-20 มี.ค.2556 จนทำให้ป่าเสม็ดขาวเสียหายไปแล้ว 846 ไร่ จากจำนวนพื้นที่ป่าเสม็ดขาวที่มีอยู่ในเขตอุทยานฯ ทั้งหมด 2,000 ไร่ ซึ่งถือเป็นแหล่งป่าเสม็ดขาวที่ใหญ่ที่สุดของทะเลตรัง
นายมาโนช กล่าวว่า ไฟได้เริ่มลุกไหม้ตั้งแต่บริเวณป่าริมหาดยาว ไปจนถึงป่าริมหาดหยงหลิง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังของ จ.ตรัง โดยมีลักษะของการติดๆ ดับๆ สลับกันไปในแต่ละวัน อันเนื่องมาจากสภาพที่แห้งแล้ง และความร้อนของอากาศ ทำให้ต้นหญ้าใต้ป่าเสม็ดขาวเกิดความแห้งกรอบจนเป็นเชื้อเพลิงได้ง่าย ประกอบกับต้นเสม็ดขาวเองก็มีเปลือกบางๆ คล้ายกับกระดาษ เมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้นจึงลุกลามไปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องไม้เครื่องมือที่มีจำกัด จึงทำให้การควบคุมไฟป่ากระทำได้ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และกว่าจะควบคุมให้สงบลงได้ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน
สำหรับสาเหตุของการไฟป่าในครั้งนี้ นายมาโนช เชื่อว่ามาจากฝีมือของมนุษย์ ซึ่งลักลอบเข้าไปกระทำการบางอย่างที่ผิดกฎหมายภายในป่าเสม็ดขาว ที่บริเวณริมหาดยาว โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดหลักฐานได้บางส่วน และอยู่ระหว่างการขยายผล ก่อนที่ไฟป่าจะลุกลามขยายวงกว้างไปเกือบพันๆ ไร่อย่างรวดเร็ว
ซึ่งการสูญเสียป่าเสม็ดขาว และไม้นานาชนิดในครั้งนี้ ถือเป็นความรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของไฟป่าที่เกิดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม แต่คงส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเพียงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งหากมีฝนในฤดูกาลที่จะถึงนี้ตกลงมาเร็ว ก็คงช่วยป่าแห่งนี้สามารถกลับฟื้นคืนมา และมีความอุดมสมบูรณ์ได้ดังเดิมภายใน 6 เดือน