ระนอง - นายอำเภอเมืองระนอง จัดกำลัง อส.ลุยตรวจป่าในเขตน้ำตกหงาว หลังได้การรับร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปรู้เห็นกับการลักลอบตัดไม้มาแปรรูปขาย ตรวจพบไม้แปรรูป 20 แผ่น ซุกซ่อนอยู่ใกล้กับบ้านหลังหนึ่งในสวนยางพารา พร้อมอุปกรณ์ตัดไม้
วันนี้ (20 มี.ค.) นายสุรัตน์ อัครวิโรจน์กุล นายอำเภอเมืองระนอง ได้รับรายงานจากนายสุรัช แซ่จั่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง ว่า ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ฝายคลองแพรกซ้ายรอยต่อเหมืองญี่ปุ่น บ้านหงาว ม.2 ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง ว่า มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้ เข้าไปลักลอบตัดไม้เพื่อแปรรูปขาย จึงได้สั่งการให้ นายสุระพล อาวุธ ปลัดป้องกันอำเภอเมืองระนอง นำกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อำเภอเมืองระนอง พร้อมอาวุธครบมือเดินทางเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงเส้นทางเข้า มีการกั้นรั้วเพื่อป้องกันคนนอกเข้าไปในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องเดินเท้าเข้าไปโดยผ่านพื้นที่สวนยางพาราที่คาดว่าน่าจะบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เข้าไปตามเส้นทางที่เป็นทางน้ำตกเก่า ใช้เวลาเดินสำรวจหาตอไม้ที่ถูกตัดประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ก็พบเศษไม้ที่ถูกแปรรูปแล้วพร้อมพบตอไม้ จำนวน 2 ตอ ที่เพิ่งถูกตัดใหม่ๆ เมื่อตรวจสอบพื้นที่โดยรอบพบเครื่องเลื่อยยนต์ จำนวน 1 เครื่อง และถังบรรจุน้ำมันขนาด 5 ลิตร บรรจุน้ำมันเต็ม จำนวน 2 ถัง น้ำมันเครื่อง ขวาน มีดพร้าอย่างละ 1 เล่ม
จากนั้นได้นำกำลังไปตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นไม้แปรรูปจำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในสวนยางใกล้ๆ กับบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงมีชายคนหนึ่งซึ่งแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของพื้นที่เข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมที่บ้าน โดยขอร้องให้เจ้าหน้าที่นำไม้แปรรูป จำนวน 20 แผ่น และไม้ท่อน จำนวน 2 ท่อน ที่แอบซ่อนอยู่ใกล้กับบ้านออกมาไว้นอกพื้นที่ของตนเอง เพื่อไม่ให้ตนเองต้องถูกดำเนินคดี โดยให้เจ้าหน้าช่วยทำสำนวนว่าพบแต่ของกลางแต่ไม่พบผู้กระทำผิด แต่ปลัดป้องกันอำเภอเมืองไม่ยอม
จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุเข้ามาตรวจสอบ พร้อมพาไปที่เกิดเหตุ และอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวทราบ แต่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ้างว่าไม่สามารถทำการจับกุมได้ โดยอ้างว่าติดปัญหาหลายอย่าง เกี่ยวกับสำนวนคดีที่จะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชกรูด และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชกรูด เป็นผู้เรียกตัวเจ้าของพื้นที่และทำการสอบสวนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอย่างละเอียดก่อน สร้างความมึนงงให้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุมเป็นอย่างมาก