นครศรีธรรมราช - คนร้ายควงปืนอาก้าบุกยิงถล่มบ้าน “เกษม สังข์แก้ว” นายก อบต.เขาขาวคนใหม่ พบชั้น 2 รอยกระสุนนับ 10 แห่ง ตร.คาดสาเหตุมาจากปมขัดแย้งการเมือง ต้องการข่มขวัญมากกว่ามุ่งเอาชีวิต
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ต.สัญญา กล่อมสุข ร้อยเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงถล่มบ้านเลขที่ 55 ม.4 ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นบ้านของนายเกษม สังข์แก้ว อายุ 52 ปี นายก อบต.เขาขาว อ.ทุ่งสง หลังรับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง พ.ต.ท.รังสรรค์ สุขเกื้อ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุรจิต ตะกรุดเดิม รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.ชัชชัย แก้วอ่อน สว.สส.สภ.ทุ่งสง นำกำลังตำรวจชุดสอบสวนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 2 คูหา ที่ชั้นล่าง มีนายเกษม สังข์แก้ว นายก อบต.เขาขาว พร้อมภรรยา และญาติซึ่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่บ้านด้วยอาการตกใจ โดยนายเกษมได้พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่ชั้น 2 ของบ้าน พบรอยกระสุนนับ 10 แห่ง และเศษปูนแตกกระจาย และบริเวณถนนหน้าบ้านเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ จำนวน 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านของนายก อบต.เขาขาว ในครั้งนี้ ไม่มีใครโดนกระสุนบาดเจ็บ และเสียชีวิตแต่อย่างใด
นายเกษม นายก อบต.เขาขาว ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ซึ่งมีทั้งภรรยา และญาติ จำนวน 5-6 คน ทุกคนต่างตกใจตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน และเมื่อแอบดูพบว่าคนร้าย 5-6 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน จำนวน 3 คัน ควงอาวุธปืนทั้งปืนอาก้า และปืนลูกซองยาวยิงถล่มใส่บ้านของตนแล้วก็ได้ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่บ้าน และติดตามคนร้ายในทันที ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด เพราะไม่เคยมีเรื่องขุ่นเคืองกับใครมาก่อนทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง
พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปว่าสาเหตุที่คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านนายเกษม นายก อบต.เขาขาว มาจากเรื่องใด แต่เบื้องต้นน่าจะมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากนายเกษมนั้นได้รับการเลือกตั้งนายก อบต.เขาขาว ชนะคู่แข่งซึ่งเป็นนายกเก่ามาขาดลอย และเชื่อว่าที่คนร้ายบุกยิงในครั้งนี้อาจจะเป็นการข่มขวัญกันมากว่า โดยฝ่ายตรงข้ามอาจจะแสดงบารมีข่มขวัญจึงได้มาก่อเหตุอย่างอุกอาจดังกล่าว จึงจะเร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ และติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.ต.สัญญา กล่อมสุข ร้อยเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงถล่มบ้านเลขที่ 55 ม.4 ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นบ้านของนายเกษม สังข์แก้ว อายุ 52 ปี นายก อบต.เขาขาว อ.ทุ่งสง หลังรับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง พ.ต.ท.รังสรรค์ สุขเกื้อ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สุรจิต ตะกรุดเดิม รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.ชัชชัย แก้วอ่อน สว.สส.สภ.ทุ่งสง นำกำลังตำรวจชุดสอบสวนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 2 คูหา ที่ชั้นล่าง มีนายเกษม สังข์แก้ว นายก อบต.เขาขาว พร้อมภรรยา และญาติซึ่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่บ้านด้วยอาการตกใจ โดยนายเกษมได้พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่ชั้น 2 ของบ้าน พบรอยกระสุนนับ 10 แห่ง และเศษปูนแตกกระจาย และบริเวณถนนหน้าบ้านเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ จำนวน 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านของนายก อบต.เขาขาว ในครั้งนี้ ไม่มีใครโดนกระสุนบาดเจ็บ และเสียชีวิตแต่อย่างใด
นายเกษม นายก อบต.เขาขาว ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ซึ่งมีทั้งภรรยา และญาติ จำนวน 5-6 คน ทุกคนต่างตกใจตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน และเมื่อแอบดูพบว่าคนร้าย 5-6 คน ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน จำนวน 3 คัน ควงอาวุธปืนทั้งปืนอาก้า และปืนลูกซองยาวยิงถล่มใส่บ้านของตนแล้วก็ได้ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่บ้าน และติดตามคนร้ายในทันที ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด เพราะไม่เคยมีเรื่องขุ่นเคืองกับใครมาก่อนทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง
พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก.สภ.ทุ่งสง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปว่าสาเหตุที่คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านนายเกษม นายก อบต.เขาขาว มาจากเรื่องใด แต่เบื้องต้นน่าจะมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากนายเกษมนั้นได้รับการเลือกตั้งนายก อบต.เขาขาว ชนะคู่แข่งซึ่งเป็นนายกเก่ามาขาดลอย และเชื่อว่าที่คนร้ายบุกยิงในครั้งนี้อาจจะเป็นการข่มขวัญกันมากว่า โดยฝ่ายตรงข้ามอาจจะแสดงบารมีข่มขวัญจึงได้มาก่อเหตุอย่างอุกอาจดังกล่าว จึงจะเร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ และติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป