นครศรีธรรมราช - หน่วยงานด้านความมั่นคง แจ้งเตือนความสุ่มเสี่ยงของท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เกรงอาจตกเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุรุนแรงที่ขยายวงในภาคใต้ หลังพบระบบความปลอดภัยชำรุด และไม่มีการใช้เครื่องตรวจสอบโลหะชนิดพกพา
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากที่มีการซ่อมบำรุง และขยายอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ทำให้ระบบด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะระบบตรวจสอบความปลอดภัยบุคคลกำลังชำรุดใช้การไม่ได้ ทั้งประตูทางเข้าท่าอากาศยาน และทางเข้าห้องพักผู้โดยสารขาออก และไม่มีการใช้เครื่องตรวจสอบโลหะชนิดพกพาตรวจสอบผู้โดยสารแต่อย่างใด คงยังใช้การได้เฉพาะเครื่องเอกซเรย์กระเป๋าของผู้โดยสารเท่านั้น
โดยจุดเปราะบางเหล่านี้ สอดคล้องกับการข่าวของฝ่ายมั่นคงที่ถูกแจ้งเตือนมายังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงสถานการณ์และความสุ่มเสี่ยงในการเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นจุดเปราะบางด้านความเชื่อมั่นหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น เช่นเดียวกับแหล่งที่เป็นจุดศูนย์รวมประชาชนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
นายกิติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ระบุว่า ขณะนี้ได้ประสานการข่าวกับ สมช. หรือสภาความมั่นคงแห่งชาติอยู่ตลอดเวลา และยอมรับว่าต้องเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งในส่วนของอาคารผู้โดยสาร การรักษาความปลอดภัยอากาศยาน การเพิ่มระบบการติดตามบุคคลด้วยวงจรปิด และเร่งซ่อมบำรุงอุปกรณ์การรักษาความปลอดภัย ขณะเดียวกัน จะประสานกับฝ่ายตำรวจ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยของพื้นที่มากขึ้น
“ในช่วงหมดเที่ยวบินของแต่ละวันนั้น จะปิดพื้นที่ทั้งหมด ทั้งประตูทางด้านทิศเหนือ และทิศใต้ห้ามบุคคลเข้าออก เว้นผู้ที่มีบัตรอนุญาต และเจ้าหน้าที่ที่จะต้องแสดงตัวตนก่อนเข้าออกทุกครั้ง” ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การข่าวได้แจ้งเตือนมาซึ่งมีความละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง ฝ่ายความมั่นคงจะมีการประชุมกันในวันที่ 13 มี.ค.นี้ เพื่อกำหนดมาตรการอย่างเร่งด่วนเพื่ออุดช่องโหว่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เพิ่มความเข้มข้นรอบพื้นที่ท่าอากาศยานรวมทั้งภายในอย่างเต็มที่
พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช (รอง ผวจ.ฝ่ายทหาร) เปิดเผยว่า กรณีการข่าวนั้นได้รับมาจากหน่วยเหนือ และหน่วยในพื้นที่ 3 จังหวัด ที่แจ้งเตือนมาในการดำเนินการ กอ.รมน.ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในพื้นที่ จะต้องรับหน้าที่และเตรียมกำหนดมาตรการแต่ละอย่างออกมา ส่วนจะยกระดับความปลอดภัยหรือไม่นั้น อย่าเพิ่งใช้คำนั้นเลย เพียงแค่แจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยให้เพิ่มความระมัดระวัง และความเข้มงวดให้มากขึ้น
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากที่มีการซ่อมบำรุง และขยายอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ทำให้ระบบด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะระบบตรวจสอบความปลอดภัยบุคคลกำลังชำรุดใช้การไม่ได้ ทั้งประตูทางเข้าท่าอากาศยาน และทางเข้าห้องพักผู้โดยสารขาออก และไม่มีการใช้เครื่องตรวจสอบโลหะชนิดพกพาตรวจสอบผู้โดยสารแต่อย่างใด คงยังใช้การได้เฉพาะเครื่องเอกซเรย์กระเป๋าของผู้โดยสารเท่านั้น
โดยจุดเปราะบางเหล่านี้ สอดคล้องกับการข่าวของฝ่ายมั่นคงที่ถูกแจ้งเตือนมายังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงสถานการณ์และความสุ่มเสี่ยงในการเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นจุดเปราะบางด้านความเชื่อมั่นหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น เช่นเดียวกับแหล่งที่เป็นจุดศูนย์รวมประชาชนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
นายกิติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ระบุว่า ขณะนี้ได้ประสานการข่าวกับ สมช. หรือสภาความมั่นคงแห่งชาติอยู่ตลอดเวลา และยอมรับว่าต้องเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งในส่วนของอาคารผู้โดยสาร การรักษาความปลอดภัยอากาศยาน การเพิ่มระบบการติดตามบุคคลด้วยวงจรปิด และเร่งซ่อมบำรุงอุปกรณ์การรักษาความปลอดภัย ขณะเดียวกัน จะประสานกับฝ่ายตำรวจ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยของพื้นที่มากขึ้น
“ในช่วงหมดเที่ยวบินของแต่ละวันนั้น จะปิดพื้นที่ทั้งหมด ทั้งประตูทางด้านทิศเหนือ และทิศใต้ห้ามบุคคลเข้าออก เว้นผู้ที่มีบัตรอนุญาต และเจ้าหน้าที่ที่จะต้องแสดงตัวตนก่อนเข้าออกทุกครั้ง” ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชกล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การข่าวได้แจ้งเตือนมาซึ่งมีความละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง ฝ่ายความมั่นคงจะมีการประชุมกันในวันที่ 13 มี.ค.นี้ เพื่อกำหนดมาตรการอย่างเร่งด่วนเพื่ออุดช่องโหว่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เพิ่มความเข้มข้นรอบพื้นที่ท่าอากาศยานรวมทั้งภายในอย่างเต็มที่
พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.นครศรีธรรมราช (รอง ผวจ.ฝ่ายทหาร) เปิดเผยว่า กรณีการข่าวนั้นได้รับมาจากหน่วยเหนือ และหน่วยในพื้นที่ 3 จังหวัด ที่แจ้งเตือนมาในการดำเนินการ กอ.รมน.ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในพื้นที่ จะต้องรับหน้าที่และเตรียมกำหนดมาตรการแต่ละอย่างออกมา ส่วนจะยกระดับความปลอดภัยหรือไม่นั้น อย่าเพิ่งใช้คำนั้นเลย เพียงแค่แจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยให้เพิ่มความระมัดระวัง และความเข้มงวดให้มากขึ้น