ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต สนธิกำลังกวาดล้างขอทานต่างชาติ จับยกแก๊งขอทานชาวเขมร 12 คน ตระเวนขอทานในพื้นที่ป่าตอง
พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงการจับกุมขอทานชาวต่างชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ปัจจุบันนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีกลุ่มขอทานชาวต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพขอทานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชิดชนก สาครเย็น สว.ตม.จว.ภูเก็ต ร.ต.อ.อังคาร ยะสะนพ รองสว.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ตม.ภูเก็ต ร่วมกับ พ.ต.ต.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ ออกสืบจับจับกุมกลุ่มข้อทานชาวต่างชาติ
ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า มีชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อมาขอทานรวมตัวกันพักอาศัยอยู่ที่บริเวณบ้านเช่าเลขที่ 69/4 ถ.พิศิษฐ์กรณี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นในเวลา 12.30 น. วันที่ 8 มี.ค.56 ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาแก๊งขอทานชาวเขมรได้ 12 คน ประกอบด้วย 1.นายปะ อายุ 27 ปี 2.นายแป้ด อายุ 40 ปี 3.นายทอน อายุ 80 ปี 4.นางจันทร์ อายุ 25 ปี 5.นางเป้า อายุ 26 ปี 6.นางมัน อายุ 30 ปี และมีเด็กชาวเขมรอีก 6 คน ซึ่งมีทั้งเด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชาย
พ.ต.อ.สัญชัย กล่าวต่อไปอีกว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตได้สืบสวนติดตามในเรื่องคนต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้ามาเพื่อขอทานในพื้นที่ป่าตอง ขณะที่เข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาที่ 1 ยืนอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าไปแสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง แต่ผู้ต้องหาที่ 1 ไม่มีหนังสือเดินทาง และรับว่าเป็นชาวเขมร โดยหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้พบเห็นผู้ต้องหาที่ 2-12 นั่งอยู่ภายในบ้าน จึงเข้าไปแสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางของผู้ต้องหาทั้งหมด ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้ จึงควบคุมตัวมาสอบสอบสวน และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่า ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยหลบหนีเข้ามาผ่านทางปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยนั่งรถโดยสารผ่านมาทางจังหวัดสระแก้ว แล้วเดินทางต่อมายังจังหวัดภูเก็ตเพื่อมาขอทาน โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 4,000 บาท และเข้าพักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทั้งหมด คือ “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย”
ในส่วนของเจ้าของบ้านเลขที่ 69/4 ถ.พิศิษฐ์กรณี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่ผู้ต้องหาในคดีนี้พักอาศัยนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแจ้งขอกล่าวหาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในความผิดฐาน “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรพ้นจากการจับกุม”
พ.ต.อ.สัญชัย ยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้พบมีหัวหน้าแก๊งขอทานชาวเขมรหลบหนีไปได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมหัวหน้าให้ได้อย่างรวดเร็วต่อไป
พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงการจับกุมขอทานชาวต่างชาติในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ปัจจุบันนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีกลุ่มขอทานชาวต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพขอทานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชิดชนก สาครเย็น สว.ตม.จว.ภูเก็ต ร.ต.อ.อังคาร ยะสะนพ รองสว.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ตม.ภูเก็ต ร่วมกับ พ.ต.ต.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ ออกสืบจับจับกุมกลุ่มข้อทานชาวต่างชาติ
ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า มีชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อมาขอทานรวมตัวกันพักอาศัยอยู่ที่บริเวณบ้านเช่าเลขที่ 69/4 ถ.พิศิษฐ์กรณี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นในเวลา 12.30 น. วันที่ 8 มี.ค.56 ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาแก๊งขอทานชาวเขมรได้ 12 คน ประกอบด้วย 1.นายปะ อายุ 27 ปี 2.นายแป้ด อายุ 40 ปี 3.นายทอน อายุ 80 ปี 4.นางจันทร์ อายุ 25 ปี 5.นางเป้า อายุ 26 ปี 6.นางมัน อายุ 30 ปี และมีเด็กชาวเขมรอีก 6 คน ซึ่งมีทั้งเด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชาย
พ.ต.อ.สัญชัย กล่าวต่อไปอีกว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตได้สืบสวนติดตามในเรื่องคนต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้ามาเพื่อขอทานในพื้นที่ป่าตอง ขณะที่เข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาที่ 1 ยืนอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าไปแสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง แต่ผู้ต้องหาที่ 1 ไม่มีหนังสือเดินทาง และรับว่าเป็นชาวเขมร โดยหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้พบเห็นผู้ต้องหาที่ 2-12 นั่งอยู่ภายในบ้าน จึงเข้าไปแสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางของผู้ต้องหาทั้งหมด ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้ จึงควบคุมตัวมาสอบสอบสวน และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่า ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยหลบหนีเข้ามาผ่านทางปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยนั่งรถโดยสารผ่านมาทางจังหวัดสระแก้ว แล้วเดินทางต่อมายังจังหวัดภูเก็ตเพื่อมาขอทาน โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางคนละ 4,000 บาท และเข้าพักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทั้งหมด คือ “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย”
ในส่วนของเจ้าของบ้านเลขที่ 69/4 ถ.พิศิษฐ์กรณี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่ผู้ต้องหาในคดีนี้พักอาศัยนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแจ้งขอกล่าวหาให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวในความผิดฐาน “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรพ้นจากการจับกุม”
พ.ต.อ.สัญชัย ยังได้กล่าวอีกว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้พบมีหัวหน้าแก๊งขอทานชาวเขมรหลบหนีไปได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมหัวหน้าให้ได้อย่างรวดเร็วต่อไป