ตรัง - สุดอนาถ 2 โลมาหลังโหนกเพศผู้ และเพศเมียตายลงพร้อมกันในทะเลตรัง สาเหตุคาดมาจากการติดเครื่องมือประมงชาวบ้าน และถูกทุบให้หลุด คาดติดอวนชาวประมง
วันนี้ (27 ก.พ.) นายตะวัน ทุ่ยอ้น ประธานชมรมคนรักษ์โลมาตะเสะ อำเภอหาดสำราญ จ.ตรัง ได้นำซากโลมาหลังโหนกเพศผู้ และเพศเมีย จำนวน 2 ตัว ไปส่งให้แก่เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง เพื่อทำการตรวจสอบ โดยตัวแรกเป็นโลมาหลังโหนก เพศผู้ อายุ 5 ปี หนัก 120 กก. ยาว 187 ซม. และรอบลำตัว 110 ซม. มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่หัว คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ซึ่งพบที่บริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ
ส่วนตัวที่ 2 เป็นโลมาหลังโหนก เพศเมีย อายุ 3 ปี หนัก 60 กก. ยาว 180 ซม. และรอบลำตัว 130 ซม. แต่ไม่มีบาดแผล คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 4 วัน ซึ่งพบที่หลังเขาหลักอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา อำเภอปะเหลียน เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่คาดว่า โลมาทั้งคู่น่าจะติดเครื่องมือประมงชาวบ้าน และถูกทุบให้หลุดออกในเวลาต่อมา จึงได้นำซากส่งศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง นับเป็นโลมาตัวที่ 3 และ 4 ที่ตายลงในทะเลตรังรอบปี 2556
วันนี้ (27 ก.พ.) นายตะวัน ทุ่ยอ้น ประธานชมรมคนรักษ์โลมาตะเสะ อำเภอหาดสำราญ จ.ตรัง ได้นำซากโลมาหลังโหนกเพศผู้ และเพศเมีย จำนวน 2 ตัว ไปส่งให้แก่เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 จ.ตรัง เพื่อทำการตรวจสอบ โดยตัวแรกเป็นโลมาหลังโหนก เพศผู้ อายุ 5 ปี หนัก 120 กก. ยาว 187 ซม. และรอบลำตัว 110 ซม. มีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่หัว คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ซึ่งพบที่บริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ
ส่วนตัวที่ 2 เป็นโลมาหลังโหนก เพศเมีย อายุ 3 ปี หนัก 60 กก. ยาว 180 ซม. และรอบลำตัว 130 ซม. แต่ไม่มีบาดแผล คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 4 วัน ซึ่งพบที่หลังเขาหลักอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา อำเภอปะเหลียน เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่คาดว่า โลมาทั้งคู่น่าจะติดเครื่องมือประมงชาวบ้าน และถูกทุบให้หลุดออกในเวลาต่อมา จึงได้นำซากส่งศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง นับเป็นโลมาตัวที่ 3 และ 4 ที่ตายลงในทะเลตรังรอบปี 2556