ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เทศบาลนครหาดใหญ่ขอความร่วมมือภาคประชาชน เฝ้าระวังการลักลอบเข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือของประชาชนทุกเครือข่าย ให้ช่วยกันตรวจสอบบุคคล และวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยแจ้งผ่านสายด่วนกุญชร 1559 ของเทศบาล
วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นอกเหนือจากการจัดกำลังผสมทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดทั้งสี่มุมเมือง รวมทั้งเดินเท้าในย่านเศรษฐกิจการค้าแล้ว ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ยังได้ขอความร่วมมือจากประชาชน และห้างร้านต่างๆ ช่วยกันเฝ้าระวังการลักลอบเข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ผ่านทาง SMS ไปยังโทรศัพท์มถือของประชาชนทุกเครือข่าย
เพื่อให้ช่วยตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย และวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่อาจนำมาจอดไว้ตามย่านการค้า โดยหากพบเห็นสิ่งต้องสงสัยให้แจ้งผ่านสายด่วนกุญชร 1559 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ซึ่งจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการเฝ้าระวังเหตุร้าย
เช่นเดียวกับในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอชายแดนสงขลา คือ อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ได้สั่งการให้นายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อส. ให้ตรวจสอบกลุ่มบุคคลแปลกหน้าที่แฝงตัวเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วม
วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นอกเหนือจากการจัดกำลังผสมทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดทั้งสี่มุมเมือง รวมทั้งเดินเท้าในย่านเศรษฐกิจการค้าแล้ว ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ยังได้ขอความร่วมมือจากประชาชน และห้างร้านต่างๆ ช่วยกันเฝ้าระวังการลักลอบเข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ผ่านทาง SMS ไปยังโทรศัพท์มถือของประชาชนทุกเครือข่าย
เพื่อให้ช่วยตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย และวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่อาจนำมาจอดไว้ตามย่านการค้า โดยหากพบเห็นสิ่งต้องสงสัยให้แจ้งผ่านสายด่วนกุญชร 1559 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ซึ่งจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการเฝ้าระวังเหตุร้าย
เช่นเดียวกับในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอชายแดนสงขลา คือ อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ได้สั่งการให้นายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อส. ให้ตรวจสอบกลุ่มบุคคลแปลกหน้าที่แฝงตัวเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วม