ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หนุ่มกระบี่หึงโหด คว้าปืน 9 มม.ยิงเมียสาวร้านเสริมสวยดับ แล้วยิงตัวตายตาม คาดหึงหวงหลังพบเคยเลิกราแล้วกลับมาคบกันใหม่
เวลา 10.00 น.วันนี้ (15 ก.พ.) ร.ต.ต.วีระ ทองอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ลำทับ จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ ภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 8 ต.ลำทับ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ ผกก. เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดกระบี่ แพทย์เวรโรงพยาบาลลำทับ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิเทวหารเต๊กก่าคุงเกาะ ลำทับ
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนสายลำทับ-ทุ่งใหญ่ ลึกเข้าไปภายในสวนยางพารา ประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พบศพแรกเป็นหญิงนอนหงาย ทราบชื่อ นางเจนจิรา ปานชู อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.8 ต.ลำทับ สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีเทา สวมกางเกงวอร์มสีแดง สวมรองเท้าบูต ชันสูตรพบมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ใบหน้ากระสุนทะลุท้ายทอย 3 นัด ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบศพนายโสภณ ปานชู อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 เป็นสามีภรรยา สภาพนอนคว่ำหน้า โดยผู้ตายสวมเสื้อโปโลสีเขียว สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีเทา
ชันสูตรพบมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับซ้ายกระสุนทะลุด้านขวา มันสมองกระจาย ห่างจากศพประมาณ 1 เมตร พบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก นอกจากนั้น ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเขียว ซึ่งเป็นของนายโสภณ จอดอยู่
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายโสภณ เป็นผู้ลงมือสังหาร คาดว่าเมื่อช่วงรุ่งสาง นายโสภณ ได้ขับรถคันดังกล่าวมาหาภรรยาที่กำลังกรีดยางอยู่ภายในสวนยาง จากนั้นอาจมีการพูดคุยกันเพื่อตกลงปัญหาบางอย่าง แต่ไม่สามารถตกลงได้ นายโสภณ จึงได้ใช้ปืนยิงนางเจนจิรา 3 นัด แล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเพื่อยุติปัญหา
และจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากันมานานหลายปีแล้ว มีบุตรด้วยกัน 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ทั้งคู่มีฐานะดีมีสวนยางหลายไร่ โดยนายโสภณ ประกอบอาชีพสวนยาง ส่วนนางเจนจิรา นอกจากมีสวนยางแล้วยังเปิดร้านเสริมสวยเป็นอาชีพเสริม ที่ผ่านมา เคยเลิกรากันไปแล้วครั้งหนึ่งเนื่องจากมีปัญหาที่นายโสภณ มีนิสัยหึงหวงภรรยาสาว จนกระทั่งเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่กลับมาอยู่กินกันอีกครั้งหนึ่ง และเกิดการหึงหวงกันอีกจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
เวลา 10.00 น.วันนี้ (15 ก.พ.) ร.ต.ต.วีระ ทองอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ลำทับ จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ ภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 8 ต.ลำทับ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ ผกก. เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดกระบี่ แพทย์เวรโรงพยาบาลลำทับ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิเทวหารเต๊กก่าคุงเกาะ ลำทับ
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนสายลำทับ-ทุ่งใหญ่ ลึกเข้าไปภายในสวนยางพารา ประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พบศพแรกเป็นหญิงนอนหงาย ทราบชื่อ นางเจนจิรา ปานชู อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.8 ต.ลำทับ สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีเทา สวมกางเกงวอร์มสีแดง สวมรองเท้าบูต ชันสูตรพบมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ใบหน้ากระสุนทะลุท้ายทอย 3 นัด ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบศพนายโสภณ ปานชู อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 เป็นสามีภรรยา สภาพนอนคว่ำหน้า โดยผู้ตายสวมเสื้อโปโลสีเขียว สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีเทา
ชันสูตรพบมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับซ้ายกระสุนทะลุด้านขวา มันสมองกระจาย ห่างจากศพประมาณ 1 เมตร พบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 1 กระบอก นอกจากนั้น ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเขียว ซึ่งเป็นของนายโสภณ จอดอยู่
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายโสภณ เป็นผู้ลงมือสังหาร คาดว่าเมื่อช่วงรุ่งสาง นายโสภณ ได้ขับรถคันดังกล่าวมาหาภรรยาที่กำลังกรีดยางอยู่ภายในสวนยาง จากนั้นอาจมีการพูดคุยกันเพื่อตกลงปัญหาบางอย่าง แต่ไม่สามารถตกลงได้ นายโสภณ จึงได้ใช้ปืนยิงนางเจนจิรา 3 นัด แล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเพื่อยุติปัญหา
และจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากันมานานหลายปีแล้ว มีบุตรด้วยกัน 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ทั้งคู่มีฐานะดีมีสวนยางหลายไร่ โดยนายโสภณ ประกอบอาชีพสวนยาง ส่วนนางเจนจิรา นอกจากมีสวนยางแล้วยังเปิดร้านเสริมสวยเป็นอาชีพเสริม ที่ผ่านมา เคยเลิกรากันไปแล้วครั้งหนึ่งเนื่องจากมีปัญหาที่นายโสภณ มีนิสัยหึงหวงภรรยาสาว จนกระทั่งเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่กลับมาอยู่กินกันอีกครั้งหนึ่ง และเกิดการหึงหวงกันอีกจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
