xs
xsm
sm
md
lg

“ในหลวง” พระราชทานพวงมาลาหลวงหน้าหีบศพ “ส.อ.ธีระยุทธ” เหยื่อคาร์บอมบ์ยะลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพวงมาลาหลวงหน้าหีบศพ ส.อ.ธีระยุทธ บุญเดโช ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ ที่ อ.รามัน จ.ยะลา โดยจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 17 ก.พ.56 ณ เมรุวัดหนองยวน จ.ตรัง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (12 ก.พ.56) ที่วัดหนองยวน ตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ นายไชยยศ ธงไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง วางพวงมาลาหลวง และพวงมาลาพระราชทาน หน้าหีบศพ ส.อ.ธีระยุทธ บุญเดโช หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็ก หมวดปืนเล็ก กองร้อยทหาราบที่ 15233 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 12

ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์ 6 ล้อ จากฐานที่ตั้งในฟาร์มตัวอย่างบ้านซาเมาะ หมู่ที่ 4 ตำบลวังพญา อำเภอรามัน เพื่อไปรับคนงานที่บ้านจะรังตาดง หมู่ที่ 3 ตำบลวังพญา แต่ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดจนรถพลิกคว่ำ แล้วยิงเจ้าหน้าที่ทหารจนเสียชีวิตทั้ง 5 นาย รวมทั้ง ส.อ.ธีระยุทธ บุญเดโช โดยจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 ณ เมรุวัดหนองยวน และได้รับการเลื่อนยศเป็น ร.อ.ธีระยุทธ บุญเดโช

ทั้งนี้ การที่ได้รับพระราชทานพวงมาลาหลวงดังกล่าว นับเป็นเกียรติสูงสุดของครอบครัว ส.อ.ธีระยุทธ บุญเดโช ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงห่วงใยในการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งที่ยังปฏิบัติงานอยู่ และเสียชีวิตไปแล้ว

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พวงมาลาพระราชทาน และพวงมาลาประทาน วางหน้าหีบศพด้วย

นายระบาย บุญเตโช บิดา ส.อ.ธีระยุทธ กล่าวว่า บุตรชายได้สมัครเข้ารับราชการทหารโดยประจำการที่ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ร.15 พัน 4 ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จากนั้น ประจำที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะถูกส่งตัวไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรวมเวลา 6 ปี ที่บุตรชายปฏิบัติหน้าที่ใน จ.ยะลา โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา บุตรชายเพิ่งเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัว และภรรยา ที่เพิ่งจะแต่งงานอยู่กินกันได้ 1 ปี แล้วกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ซึ่งก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับครอบครัว

กระทั่งมีเพื่อนบ้านได้มาแจ้งข่าวให้ทราบว่า บุตรชายตนเสียชีวิตแล้ว ก็รู้สึกช็อก และยังทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เนื่องจากบุตรชายยังอยู่ในวัยที่ยังมีอนาคตทางราชการที่ก้าวหน้า อีกทั้งเป็นบุตรคนโตซึ่งเป็นเสาหลักดูแลทั้งตน และภรรยามาตลอด ดังนั้น หากเป็นไปได้อยากจะให้เหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้สงบโดยเร็ววัน และไม่อยากจะให้มีการสูญเสียเกิดขึ้นอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น