พังงา - เกษตรจังหวัดพังงา เตือนเกษตรกรในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลผลัดใบของต้นยางพาราควรหยุดกรีดยาง เพราะอาจจะทำให้เกิดโรคหน้ายางแห้ง และต้นยางตายได้
วันนี้ (12 ก.พ.56) นายระพีพันธ์ แสงใส เกษตรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลผลัดใบของต้นยางพารา ในพื้นที่ภาคใต้ถือเป็นช่วงปิดกรีดยาง เกษตรกรจึงควรให้ต้นยางหยุดพัก เนื่องจากเป็นช่วงที่ไม่มีใบทำให้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ หากยังฝืนกรีดในช่วงยางผลัดใบจะทำให้เกิดโรคหน้ายางแห้ง และเสี่ยงที่จะทำให้ต้นยางตายได้
การกรีดยางในช่วงที่ยางผลัดใบจะทำให้น้ำยางออกน้อย เพราะฉะนั้น เกษตรกรก็ต้องรอให้ยางผลิตใบใหญ่ใหม่สามารถผลิตน้ำยางได้เติมที่จึงเปิดกรีดยาง ซึ่งในระยะนี้ราคายางแผ่นดิบจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 84 บาท จึงควรที่จะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ด้วยการรอให้ใบยางที่งอกใหม่เริ่มแก่เสียก่อนจึงจะกรีดยางกันอีกครั้ง ซึ่งในช่วงว่างเว้นการกรีดยางนี้ เกษตรกรก็อาจจะใช้เวลาในการบำรุงดูแลสวนยางพาราเพื่อให้มีความสมบูรณ์ จะทำให้สามารถกรีดยางได้ในระยะยาว
วันนี้ (12 ก.พ.56) นายระพีพันธ์ แสงใส เกษตรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลผลัดใบของต้นยางพารา ในพื้นที่ภาคใต้ถือเป็นช่วงปิดกรีดยาง เกษตรกรจึงควรให้ต้นยางหยุดพัก เนื่องจากเป็นช่วงที่ไม่มีใบทำให้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ หากยังฝืนกรีดในช่วงยางผลัดใบจะทำให้เกิดโรคหน้ายางแห้ง และเสี่ยงที่จะทำให้ต้นยางตายได้
การกรีดยางในช่วงที่ยางผลัดใบจะทำให้น้ำยางออกน้อย เพราะฉะนั้น เกษตรกรก็ต้องรอให้ยางผลิตใบใหญ่ใหม่สามารถผลิตน้ำยางได้เติมที่จึงเปิดกรีดยาง ซึ่งในระยะนี้ราคายางแผ่นดิบจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 84 บาท จึงควรที่จะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ด้วยการรอให้ใบยางที่งอกใหม่เริ่มแก่เสียก่อนจึงจะกรีดยางกันอีกครั้ง ซึ่งในช่วงว่างเว้นการกรีดยางนี้ เกษตรกรก็อาจจะใช้เวลาในการบำรุงดูแลสวนยางพาราเพื่อให้มีความสมบูรณ์ จะทำให้สามารถกรีดยางได้ในระยะยาว