ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตเร่งแก้ปัญหาบนเกาะราชา จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ให้เห็นเป็นรูปธรรม หลังพบที่ผ่านมาการแก้ปัญหายังล่าช้า ขณะที่ปัญหานับวันมีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ชาวบ้านวอนภาครัฐเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมระบุพบปัญหาใหญ่ ต่างชาติเข้ามาแย่งอาชีพชาวบ้าน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะทำงานบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งเกาะราชา จังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามผลการดำเนินงานแก้ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำเสีย และอื่นๆ บนเกาะราชา ของคณะทำงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนรายงานโครงการเหมาเก็บข้อมูลเพื่อประเมินคุณภาพแหล่งน้ำเกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต
โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (จ.ภูเก็ต) เทศบาลตำบลราไวย์ ผู้ประกอบการเกาะราชาใหญ่ ชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเองเกาะราชา ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้ ในการประชุมได้มีการนำเสนอปัญหาของเกาะราชาในภาพรวม สรุปว่า ยังคงมีปัญหาขยะที่เกิดจากกิจกรรมการท่องเที่ยว ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำลำคลองสาธารณะ การตัดถนนเพื่อทำท่าเรือทำให้มีดินตะกอนไหลลงทะเลทับถมแนวปะการัง และการสร้างเขื่อนกันคลื่น ซึ่งแต่ละปัญหา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดำเนินการแก้ไข โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เช่น การทิ้งขยะไม่ถูกสุขลักษณะ มอบหมายให้เทศบาลตำบลราไวย์กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าไปดูแล ปัญหาการปลูกสร้างรุกล้ำลำคลองสาธารณะและการสร้างเขื่อนกันคลื่น มอบหมายเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตดำเนินการ เป็นต้น
นายสฤษดิ์ จันทร์ดี กล่าวว่า ปัจจุบันบนเกาะราชานอก ปัญหาน้ำเสีย ขยะ และการสร้างสิ่งปลูกสร้างล้ำที่สาธารณะ ซึ่งมีการพูดคุยกันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม แล้วยังพบว่า ปัญหาดังกล่าวมีความรุนแรงมากขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก้ปัญหาอย่างจริงจัง และลงไปตรวจสอบในพื้นที่ด้วย ส่วนปัญหาใหม่ที่น่าเป็นห่วง คือ การเข้าไปประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำรูปแบบใหม่ คือ ไทร์ไดส์ ซึ่งเป็นการนำนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถดำน้ำในลักษณะของสคูบ้าได้ ลงไปดำน้ำดูปะการัง โดยกลุ่มเกาหลีกับจีน จากเดิมที่เคยใช้บริการของคนบนเกาะ ปัจจุบันได้มีการสร้างเรือหางยาวของตัวเอง จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าฯ กล่าวว่า การแก้ปัญหาที่ผ่านมาค่อนข้างล่าช้า ซึ่งจะได้กำชับ และเร่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการแก้ปัญหาตามอำนาจหน้าที่ของตัวเอง และจะมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพที่แท้จริง ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ รวมทั้งให้แต่ละหน่วยงานได้นำเสนอแผนงานในการแก้ปัญหา และพัฒนาเกาะราชาใหญ่แบบอย่างยั่งยืน โดยอาศัยความร่วมมือจากชุมชนบนเกาะด้วย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะทำงานบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งเกาะราชา จังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามผลการดำเนินงานแก้ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำเสีย และอื่นๆ บนเกาะราชา ของคณะทำงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนรายงานโครงการเหมาเก็บข้อมูลเพื่อประเมินคุณภาพแหล่งน้ำเกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต
โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 (จ.ภูเก็ต) เทศบาลตำบลราไวย์ ผู้ประกอบการเกาะราชาใหญ่ ชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเองเกาะราชา ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้ ในการประชุมได้มีการนำเสนอปัญหาของเกาะราชาในภาพรวม สรุปว่า ยังคงมีปัญหาขยะที่เกิดจากกิจกรรมการท่องเที่ยว ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำลำคลองสาธารณะ การตัดถนนเพื่อทำท่าเรือทำให้มีดินตะกอนไหลลงทะเลทับถมแนวปะการัง และการสร้างเขื่อนกันคลื่น ซึ่งแต่ละปัญหา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดำเนินการแก้ไข โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เช่น การทิ้งขยะไม่ถูกสุขลักษณะ มอบหมายให้เทศบาลตำบลราไวย์กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าไปดูแล ปัญหาการปลูกสร้างรุกล้ำลำคลองสาธารณะและการสร้างเขื่อนกันคลื่น มอบหมายเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตดำเนินการ เป็นต้น
นายสฤษดิ์ จันทร์ดี กล่าวว่า ปัจจุบันบนเกาะราชานอก ปัญหาน้ำเสีย ขยะ และการสร้างสิ่งปลูกสร้างล้ำที่สาธารณะ ซึ่งมีการพูดคุยกันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม แล้วยังพบว่า ปัญหาดังกล่าวมีความรุนแรงมากขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก้ปัญหาอย่างจริงจัง และลงไปตรวจสอบในพื้นที่ด้วย ส่วนปัญหาใหม่ที่น่าเป็นห่วง คือ การเข้าไปประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำรูปแบบใหม่ คือ ไทร์ไดส์ ซึ่งเป็นการนำนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถดำน้ำในลักษณะของสคูบ้าได้ ลงไปดำน้ำดูปะการัง โดยกลุ่มเกาหลีกับจีน จากเดิมที่เคยใช้บริการของคนบนเกาะ ปัจจุบันได้มีการสร้างเรือหางยาวของตัวเอง จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย
น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าฯ กล่าวว่า การแก้ปัญหาที่ผ่านมาค่อนข้างล่าช้า ซึ่งจะได้กำชับ และเร่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปดำเนินการแก้ปัญหาตามอำนาจหน้าที่ของตัวเอง และจะมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพที่แท้จริง ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ รวมทั้งให้แต่ละหน่วยงานได้นำเสนอแผนงานในการแก้ปัญหา และพัฒนาเกาะราชาใหญ่แบบอย่างยั่งยืน โดยอาศัยความร่วมมือจากชุมชนบนเกาะด้วย
