ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตเปิดตลาดการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ตุรกี นำเสนอความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลกนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศเดินทางท่องเที่ยวระหว่างกันได้ 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำคณะหน่วยงานราชการ และผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าฯ นายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประดิษฐ์ แสงจันทร์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายสรายุทธ มัลลัม อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายบริหาร และนายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายการตลาด และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสื่อมวลชนจากภูเก็ต ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมงานนิทรรศการ และการแสดงด้านการค้าและการท่องเที่ยว หรือ EMITT 2013 (East Mediterranean International Travel & Tourism Exhibition) ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในระหว่างวันที่ 25-30 มกราคม 2556
สำหรับงานนิทรรศการ และการแสดงด้านการค้าและการท่องเที่ยว หรือ EMITT 2013 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 17 โดยมีตัวแทนธุรกิจท่องเที่ยว และโรงแรมกว่า 70 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วม ถือได้ว่าเป็นนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ และมีความสำคัญในการเชื่อมต่อกลุ่มประเทศในเอเชีย และยุโรปได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต และกระบี่นั้นได้มีการนำตัวแทนผู้ประกอบการ เช่น โรงแรม เดอะ แน๊ป ป่าตอง, อาร์มาร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา, สุโข สปา, อ่าวนางปริ๊นซ์วิลล์ รีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรม กระบี่ รีสอร์ท เป็นต้น ร่วมเปิดตลาดการท่องเที่ยวแก่ชาวตุรกี นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังได้นำศิลปะและวัฒนธรรมไทย เช่น รำไทย การเพนต์ร่มกระดาษ และการทำหุ่นกระบอกไทย มาจัดแสดงในงานอีกด้วย สามารถเรียกความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานชาวตุรกี และชาวต่างชาติอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “การเปิดตลาดการท่องเที่ยวตุรกีในครั้งนี้ ทำให้จังหวัดภูเก็ต และกระบี่ รวมถึงประเทศไทยได้รับประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง เนื่องจากทางการทูตไทย-ตุรกีได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน จึงจะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวตุรกีเพิ่มขึ้นในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และในที่ต่างๆ ของประเทศไทยอีกด้วย และในทางกลับกัน นักท่องเที่ยวชาวไทยเองก็สามารถเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากการท่องเที่ยวในตุรกีได้สะดวกขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ ยังเป็นการนำความสวยงามทางธรรมชาติของจังหวัดภูเก็ต และกระบี่มาให้ชาวโลกได้เห็น ซึ่งถือเป็นการดีเพราะในอนาคตตลาดการท่องเที่ยวของตุรกีจะต้องเติบโตขึ้นอีกแน่นอน”
ขณะที่นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถึงแม้ว่าประเทศตุรกีจะมีสภาพภูมิประเทศคล้ายคลึงกับจังหวัดภูเก็ต คือมีทะเลเหมือนกัน แต่ความสวยงามของธรรมชาตินั้นต่างกัน ทำให้ตรงนี้เป็นจุดเด่นที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตุรกีเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ และจังหวัดอันดามันอื่นๆ อีกด้วย และนอกจากชาวตุรกีแล้ว ยังคาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากโดฮา อาบูดาบี และดูไบได้อีกด้วย เนื่องจากทั้ง 3ประเทศนี้สามารถบินตรงถึงภูเก็ตได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมงานนี้ ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างดีมาก”