เที่ยวท่องล่องใต้สัปดาห์นี้ แวะไปเมืองเก่า เที่ยวชมธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ดั่งปอดขนาดใหญ่ของเมืองตรังกัน “สระกะพังสุรินทร์” สวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุด สักการะ “พระพุทธสิหิงค์” ผู้นำท้องถิ่นคนใหม่กำลังพลิกฟื้นให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง หลังจากถูกทิ้งลืมไปนาน ร่มรื่นด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ มีหนองน้ำธรรมชาติ พื้นที่กว้างขวาง ชวนครอบครัวผักผ่อน หลบหลีกความวุ่นวายในเมืองยุ่งเหยิง
ถ้าย้อนกลับไปเมื่อประมาณสัก 10 ปีที่แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินทางมายังจังหวัดตรัง อดไม่ได้ที่จะต้องแวะมาเยือน “สระกะพังสุรินทร์” สวนสาธารณะแห่งแรกที่มีความเก่าแก่ที่สุด ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครตรัง และห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 2 กิโลเมตร โดยมีลักษณะเป็นหนองน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 74 ไร่ แยกออกเป็นพื้นน้ำ 52 ไร่ พื้นดิน 22 ไร่ และได้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2508
สระน้ำแห่งนี้มีลักษณะเป็นโพรงหินปูนด้านล่าง ภายในจะมีน้ำขังอยู่ตลอดปี แม้ยามหน้าแล้ง และสามารถบอกถึงปริมาณน้ำภายในเขตเทศบาลนครตรังได้ว่า ปีนั้นๆ น้ำจะมากหรือน้อย ซึ่งนอกจากจะใช้เลี้ยงต้นไม้ใหญ่น้อยรอบๆ บริเวณแล้ว ยังถือว่าเป็นแหล่งน้ำอันสำคัญของชาวกะพังสุรินทร์ และใกล้เคียง เพราะช่วยให้บ่อน้ำตื้นมีปริมาณให้ได้กินได้ใช้ตลอดทั้งปี รวมทั้งยังสามารถนำน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่ต่างๆ ในหน้าแล้งได้ด้วย
จากข้อมูลในจดหมายเหตุรายวัน ของ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 7 บันทึกว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2471 พระองค์ได้ทรงรถยนต์พระที่นั่งจากตำหนักผ่อนกาย เสด็จตำบลสระพังเป็นที่คล้ายกับวนะ มีสระใหญ่อยู่กลาง เสวยเครื่องว่าง ณ พลับพลาซึ่งปลูกในสระนั้น เสร็จแล้วเสด็จทอดพระเนตรรอบบริเวณ เวลา 17.15 น. เสด็จกลับสู่พระตำหนักผ่อนกายที่ประทับแรม
ทั้งนี้ จะมีศาลาตั้งอยู่กลางน้ำอยู่ด้วยกัน 3 หลัง และจะมีสะพานเชื่อมโยงติดต่อกัน โดยในช่วงแรกจะมีการสร้างแค่เพียงหลังเดียว แล้วต่อมา ก็มีการสร้างเพิ่มขึ้นอีก 2 หลัง ทั้งด้านซ้าย และด้านขวา ส่วนทางทิศเหนือของสระน้ำก็ยังมีการก่อสร้างศาลาขึ้น เมื่อปี 2520 ที่มีความสวยงามมาก ซึ่งได้จำลองรูปแบบมาคล้ายๆ กับพลับพลาที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับเสด็จรัชกาลที่ 7 ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธสิหิงค์” องค์จำลอง
นอกจากนี้ บริเวณภายในสวนสาธารณะก็จะร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ยืนต้น ไม้ดอก ไม้ประดับนานาชนิด เช่น ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นมะขาม ต้นประดู่ ต้นภู่ระหง หรือกล้วยไม้นานาพันธุ์ จึงถือได้ว่าเป็นปอดใหญ่ของคนในเมืองตรัง ที่จะหลบมาพักผ่อนหย่อนใจ และหลบความสับสนวุ่นวาย ด้วยการนำข้าวปลาอาหารมาล้อมวงกินกัน หรือพาลูกพาหลานมาวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน
นอกจากนั้น ในอดีต “สระกะพังสุรินทร์” ก็ยังเป็นศูนย์กลางของการจัดงานทางด้านประเพณีวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นงานวันลอยกระทง วันสงกรานต์ หรือวันเด็ก ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า งานที่จัดขึ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่เมื่อมาถึงปัจจุบัน กลับได้มีการย้ายการจัดงานทุกอย่างไปยังสถานที่อื่น จนทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้แทบจะถูกลืมไปจากบุคคลภายนอก
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ “นายอภิชิต วิโนทัย” หรือ “โกแจ๊ค” เข้ามาเป็นนายกเทศมนตรีนครตรัง หลายคนล้วนคาดหวังกับการพลิกฟื้นสวนสาธารณะแห่งนี้ให้มายิ่งใหญ่อีกครั้ง และไม่นานนักก็เกิดความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ขึ้น แต่มีความหมาย ซึ่งก็คือ การปรับปรุงภูมิทัศน์ครั้งใหญ่ ด้วยการตัดหญ้า จัดการขยะ และซ่อมบำรุงเครื่องทำน้ำพุ พร้อมสำรวจพื้นที่เพื่อจัดตั้ง “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเล และน้ำจืดจังหวัดตรัง”
นอกจากนั้น ยังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ และการจัดทำสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปเพิ่มเติมในสวนสาธารณะแห่งนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2556 พร้อมกับการหารือกับประชาชนในพื้นที่ เรื่องการจัดตั้งร้านค้าต่างๆ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก และอาหารพื้นเมือง โดยหวังให้เป็นทางเลือกสำหรับการท่องเที่ยวในเขตเทศบาลนครตรัง และประชาชนได้พาครอบครัวมาพักผ่อนหย่อนใจ
ที่สำคัญก็คือ เป็นการคืนชีวิตชีวาให้ “สระกะพังสุรินทร์” กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกครั้ง
เรื่อง/ภาพ - เมธี เมืองแก้ว