ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จนท.บุกจู่โจมตรวจค้นแคมป์ที่ใช้สำหรับกักขังชาวโรฮิงญากลางป่าในพื้นที่ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่นายหน้าไหวตัวทัน ขนชาวโรฮิงญาเกือบ 200 คนไปก่อนที่จะเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (31 ม.ค.) นายเสรี พาณิชย์กุล นายอำเภอหาดใหญ่ ร่วมกับ พ.ต.ต.อิทธิพล พรหมดวง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือดีเอสไอ และ พ.ต.ท.ปิยวิชญ์ ไกรภาณุช เลขานุการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกจู่โจมตรวจค้นแคมป์ที่ใช้สำหรับกักขังชาวโรฮิงญา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณป่าสวนยางพื้นที่ ม.7 บ้านฉลุง ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เขตรอยต่อพื้นที่ ม.2 บ้านคลองต่อ ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ แต่สภาพภายในแคมป์ว่างเปล่า คาดว่ามีการเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงญาออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นในไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากยังมีร่องรอยของยากันยุงที่ถูกจุดทิ้งไว้ และยังไม่มีการเก็บข้าวของภายในแคมป์ซึ่งลักษณะเหมือนกันรีบเร่งเคลื่อนย้ายออกไป
จากการตรวจสอบพบว่า แคมป์ดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ตั้งอยู่ริมคลอง มีการใช้ผ้าพลาสติกกั้นเป็นรั้วล้อมรอบ ส่วนภายในใช้เป็นที่พักของชาวโรฮิงญามีการใช้ผ้ายางสร้างเป็นโรงนอนชั่วคราว 4 หลัง รวมทั้งโรงครัวซึ่งมีอุปกรณ์การประกอบอาหารครบชุด ทั้งเตาแก๊ส และกระทะ รวมทั้งข้าวสาร จานชามที่กองรวมกันยังไม่ได้ล้าง ส่วนภายนอกมีการขุดห้องสุขาชั่วคราวกั้นด้วยกระสอบ 2 หลัง และมีเปลสนามผูกไว้รอบแคมป์ 5 อัน ซึ่งคาดว่าเป็นที่พักสำหรับผู้ที่ควบคุมชาวโรฮิงญา
พ.ต.ต.อิทธิพล พรหมดวง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือดีเอสไอเปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นแคมป์กักขังชาวโรฮิงญาแห่งนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนขยายผลมาจากชาวโรฮิงญาที่ถูกช่วยเหลือออกมาได้บริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย และพบว่า ยังมีอีกบางส่วนที่ยังคงถูกกักขังอยู่ในแคมป์ เพื่อรอส่งเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย และจากข้อมูลแคมป์แห่งนี้ มีชาวโรฮิงญาอยู่เกือบ 200 คน โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของใคร และจะเชิญตัวมาสอบสวนขยายผลไปถึงกลุ่มที่นำชาวโรฮิงญากลุ่มนี้มากักขังต่อไป
