นราธิวาส - “เจะอามิง” ส.ส.นราธิวาส ยืนยันเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น สวนทางกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุไว้ พร้อมขอให้รัฐบาลนำข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้านมาพิจารณาแก้ปัญหาเพื่อดับไฟใต้
นายเจะอามิง โตะตาหยง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนราธิวาส ยืนยันว่าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และยังไม่มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวในโอกาสที่เดินทางมาติดตามการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าแต่อย่างใด
“เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็ยังคงเกิดเหตุสะเทือนขวัญครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังคนร้ายบุกยิงนายชลธี เจริญชล ครูโรงเรียนบ้านตันหยง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตกลางโรงอาหารภายในโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน จนเป็นเหตุให้ครูชลธีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะจากที่ได้สอบถามถึงพฤติกรรมของครูชลธี ทำให้ทราบว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นคนดี มีน้ำใจ เข้ากับครู นักเรียน และผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงพักกลางวันมักจะนำปิ่นโตมาจากบ้านเพื่อรับประทานอาหารร่วมกับนักเรียน จนทำให้นักเรียนรัก และศรัทธาในตัวครูชลธีเป็นอย่างมาก” นายเจะอามิงกล่าว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายเจะอามิง ระบุว่า โดยส่วนตัวเห็นใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ยากต่อการตรวจสอบ และรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา อีกทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเองก็ตกเป็นเป้าหมายที่กลุ่มคนร้ายพยายามหาช่องทางในการทำร้ายด้วยเช่นกัน จึงยากต่อการที่จะป้องกันการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบให้ครอบคลุมอย่างทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม นายเจะอามิงได้หยิบยกประเด็นการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ฝ่ายค้านซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอต่อรัฐบาลไปถึง 9 ข้อก่อนหน้านี้ว่า เหตุใดจึงไม่พิจารณานำมาใช้ในการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น เพราะข้อเสนอเหล่านี้ล้วนเป็นที่สิ่งที่รัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการแก้ปัญหาในพื้นที่ และเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ว่าสามารถลดการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะกฎหมายของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านได้ร่วมกันบัญญัติขึ้น เนื่องจากมีหลายข้อที่สอดคล้องกับแนวทางการแก้ปัญหา โดยคำนึงถึงวิถีชีวิต และอัตลักษณ์ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหากมีการนำมาเผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้อ่าน และทำความเข้าใจในข้อกฎหมายของ ศอ.บต. ก็จะทำให้เกิดการยอมรับแนวทางในการนำสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) เพื่อเข้ามาทำงานซ้ำซ้อนในพื้นที่ จนเกิดความสับสนทั้งกับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติและประชาชน
นายเจะอามิง โตะตาหยง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนราธิวาส ยืนยันว่าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และยังไม่มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวในโอกาสที่เดินทางมาติดตามการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าแต่อย่างใด
“เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็ยังคงเกิดเหตุสะเทือนขวัญครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังคนร้ายบุกยิงนายชลธี เจริญชล ครูโรงเรียนบ้านตันหยง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตกลางโรงอาหารภายในโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน จนเป็นเหตุให้ครูชลธีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะจากที่ได้สอบถามถึงพฤติกรรมของครูชลธี ทำให้ทราบว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ และเป็นคนดี มีน้ำใจ เข้ากับครู นักเรียน และผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงพักกลางวันมักจะนำปิ่นโตมาจากบ้านเพื่อรับประทานอาหารร่วมกับนักเรียน จนทำให้นักเรียนรัก และศรัทธาในตัวครูชลธีเป็นอย่างมาก” นายเจะอามิงกล่าว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายเจะอามิง ระบุว่า โดยส่วนตัวเห็นใจกำลังพลที่ปฏิบัติงานในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ เนื่องจากโรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ยากต่อการตรวจสอบ และรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา อีกทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเองก็ตกเป็นเป้าหมายที่กลุ่มคนร้ายพยายามหาช่องทางในการทำร้ายด้วยเช่นกัน จึงยากต่อการที่จะป้องกันการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบให้ครอบคลุมอย่างทั่วถึง
อย่างไรก็ตาม นายเจะอามิงได้หยิบยกประเด็นการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ฝ่ายค้านซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอต่อรัฐบาลไปถึง 9 ข้อก่อนหน้านี้ว่า เหตุใดจึงไม่พิจารณานำมาใช้ในการแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น เพราะข้อเสนอเหล่านี้ล้วนเป็นที่สิ่งที่รัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์ได้ดำเนินการแก้ปัญหาในพื้นที่ และเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ว่าสามารถลดการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะกฎหมายของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านได้ร่วมกันบัญญัติขึ้น เนื่องจากมีหลายข้อที่สอดคล้องกับแนวทางการแก้ปัญหา โดยคำนึงถึงวิถีชีวิต และอัตลักษณ์ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหากมีการนำมาเผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้อ่าน และทำความเข้าใจในข้อกฎหมายของ ศอ.บต. ก็จะทำให้เกิดการยอมรับแนวทางในการนำสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) เพื่อเข้ามาทำงานซ้ำซ้อนในพื้นที่ จนเกิดความสับสนทั้งกับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติและประชาชน
