ระนอง - ภาคเอกชนพร้อมผลักดันจังหวัดระนองเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ต่อจากแม่สอด เพราะสามารถกระจายสินค้าไปในเส้นทางอ่าวเบงกอล รวมถึงเป็นศูนย์กลางการค้าไปยังมาเลเซีย อินเดีย และบังกลาเทศ โดยเสนอ 4 เขตพื้นที่ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณา หวังเป็นโมเดลนำร่องรองรับอาเซียน
นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวภายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติทุกหลักการในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดให้เป็นโมเดลนำร่องรองรับอาเซียน ว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาเพื่อผลักดันให้จังหวัดระนองเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษต่อจากแม่สอด เพราะจังหวัดระนองมีลักษณะทางกายภาพ และคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับ อ.แม่สอด จ.ตาก เพราะเป็นประตูการค้าชายแดนที่ติดกับประเทศพม่า และยังสามารถกระจายสินค้าไปในเส้นทางอ่าวเบงกอล รวมถึงเป็นศูนย์กลางเชื่อมเส้นทางการค้าไปยังมาเลเซีย อินเดีย และบังกลาเทศ
โดยก่อนหน้านี้ จ.ระนอง ได้มีการเสนอพื้นที่ 4 แห่ง คือ เขาหัวเขียวด้านหลังโรงเจ, บ้านทุ่งละออง ต.ราชกรูด, พื้นที่ ต.มะมุ อ.กระบุรี 3265 ไร่ และพื้นที่ในอำภอกะเปอร์ 988 ไร่ ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณา และหวังว่ารัฐบาลจะผลักดันให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษระนองต่อไป
ส่วนทางด้านของภาคเอกชน จะทำการผลักดันโดยตนเองในฐานะประธานหอการค้าจังหวัดระนองก็จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองพิจารณา และช่วยผลักดันอีกทางหนึ่งในการประชุมคณะกรรมการ่วมภาครัฐ และเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือ กรอ.ในวันที่ 24 มกราคมนี้
พร้อมกล่าวว่าหากรัฐบาลเร่งผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษระนองจะทำให้ประเทศได้ประโยชน์อีกมหาศาล เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์กลางการค้า ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทย มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และลดปัญหาการกระจุกตัวของแรงงานในกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ประธานหอการค้าจังหวัดระนองยังกล่าวอีกว่า หากภาครัฐและภาคเอกชนมีความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน จะทำให้ท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะในส่วนของผู้นำท้องถิ่นที่จะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดีซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษระนองได้เร็วขึ้นอีกด้วย
นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวภายหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติทุกหลักการในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดให้เป็นโมเดลนำร่องรองรับอาเซียน ว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณาเพื่อผลักดันให้จังหวัดระนองเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษต่อจากแม่สอด เพราะจังหวัดระนองมีลักษณะทางกายภาพ และคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับ อ.แม่สอด จ.ตาก เพราะเป็นประตูการค้าชายแดนที่ติดกับประเทศพม่า และยังสามารถกระจายสินค้าไปในเส้นทางอ่าวเบงกอล รวมถึงเป็นศูนย์กลางเชื่อมเส้นทางการค้าไปยังมาเลเซีย อินเดีย และบังกลาเทศ
โดยก่อนหน้านี้ จ.ระนอง ได้มีการเสนอพื้นที่ 4 แห่ง คือ เขาหัวเขียวด้านหลังโรงเจ, บ้านทุ่งละออง ต.ราชกรูด, พื้นที่ ต.มะมุ อ.กระบุรี 3265 ไร่ และพื้นที่ในอำภอกะเปอร์ 988 ไร่ ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณา และหวังว่ารัฐบาลจะผลักดันให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษระนองต่อไป
ส่วนทางด้านของภาคเอกชน จะทำการผลักดันโดยตนเองในฐานะประธานหอการค้าจังหวัดระนองก็จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองพิจารณา และช่วยผลักดันอีกทางหนึ่งในการประชุมคณะกรรมการ่วมภาครัฐ และเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือ กรอ.ในวันที่ 24 มกราคมนี้
พร้อมกล่าวว่าหากรัฐบาลเร่งผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษระนองจะทำให้ประเทศได้ประโยชน์อีกมหาศาล เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์กลางการค้า ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทย มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และลดปัญหาการกระจุกตัวของแรงงานในกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ ประธานหอการค้าจังหวัดระนองยังกล่าวอีกว่า หากภาครัฐและภาคเอกชนมีความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน จะทำให้ท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะในส่วนของผู้นำท้องถิ่นที่จะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดีซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษระนองได้เร็วขึ้นอีกด้วย
