พังงา - ระทึกไฟไหม้อู่ซ่อมสีรถยนต์ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา วอด รถรอทำสีเสียหาย 2 คัน เบื้องต้นคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (19 ม.ค.) พ.ต.อ.เขมรินทร์ หัสศิริ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้อู่ซ่อมสีรถยนต์ บริเวณบ้านบางปอ หมู่ที่ 1 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตะกั่วป่า พบบริเวณที่เกิดเหตุเป็นอู่ซ่อมสีรถยนต์ไฟกำลังลุกไหม้อย่างหนัก
ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า อู่ที่เกิดเหตุเป็นของนายสมชัย แซ่อึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ที่ 1 บ้านบางปอ ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อนบ้าน และเจ้าของอู่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองตะกั่วป่าช่วยเร่งนำน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้กันอย่างโกลาหล ท่ามกลางเสียงระเบิดจากอุปกรณ์ที่เป็นวัตถุไวไฟเป็นระยะๆ และไฟได้ลุกไหม้รถยนต์ที่จอดทำสี จำนวน 2 คัน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตะกั่วป่าต้องระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
จากการตรวจสอบทราบว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ในร้าน และเพื่อนบ้านได้ยินเสียงไฟไหม้จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ และเจ้าของอู่ทราบ ซึ่งไฟได้ติดขึ้นที่บริเวณใกล้รถเก๋ง จำนวน 2 คัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุดังกล่าวอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (19 ม.ค.) พ.ต.อ.เขมรินทร์ หัสศิริ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้อู่ซ่อมสีรถยนต์ บริเวณบ้านบางปอ หมู่ที่ 1 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตะกั่วป่า พบบริเวณที่เกิดเหตุเป็นอู่ซ่อมสีรถยนต์ไฟกำลังลุกไหม้อย่างหนัก
ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า อู่ที่เกิดเหตุเป็นของนายสมชัย แซ่อึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ที่ 1 บ้านบางปอ ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อนบ้าน และเจ้าของอู่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองตะกั่วป่าช่วยเร่งนำน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้กันอย่างโกลาหล ท่ามกลางเสียงระเบิดจากอุปกรณ์ที่เป็นวัตถุไวไฟเป็นระยะๆ และไฟได้ลุกไหม้รถยนต์ที่จอดทำสี จำนวน 2 คัน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตะกั่วป่าต้องระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
จากการตรวจสอบทราบว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ในร้าน และเพื่อนบ้านได้ยินเสียงไฟไหม้จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ และเจ้าของอู่ทราบ ซึ่งไฟได้ติดขึ้นที่บริเวณใกล้รถเก๋ง จำนวน 2 คัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุดังกล่าวอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป