ระนอง - เกษตรกรผู้เลี้ยงปูนิ่ม จ.ระนอง ยิ้มออก หลังมีผู้รับซื้อในราคาสูงขึ้น สภาพอากาศเหมาะสมในช่วงหน้าหนาวทำปูลอกคราบเพิ่ม
นางนภา แช่เตีย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/2 ม.2 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง เจ้าของบ่อเลี้ยงปูนิ่ม กล่าวว่า สถานการณ์การเลี้ยงปูนิ่มในขณะนี้ดีขึ้นกว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากก่อนหน้านี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปูนิ่มต่างประสบกับปัญหาการขาดทุน จากอัตราการตายของปูสูง จึงล้มเลิกธุรกิจฟาร์มปูนิ่มไปหลายราย ซึ่งในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้พบว่า มีปูลอกคราบเพียงวันละ 10-20 ตัวเท่านั้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอุณหภูมิในบ่อเลี้ยงปูสูง แต่ช่วงนี้สภาพอากาศอบอุ่น ปูกินอาหารได้มากขึ้น ปูชุดนี้เลี้ยงไว้จำนวน 20,000 กว่าตัว
จำนวนปูที่ลอกคราบมีวันละ 100 ตัว มีขนาด 5-6 ตัวต่อกิโลกรัม สามารถขายได้ในราคากิโลกรัมละ 240-250 บาท สร้างรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท โดยซื้อปูดำเป็นมาในราคากิโลกรัมละ 100 บาท บวกค่าอาหารที่ให้แก่ปู คือ 2 วันต่อ 1 ครั้ง ยังเหลือกำไร รายไหนที่บ่อใหญ่ หรือมีจำนวนหลายบ่อจะมีรายได้วันละเกือบ 10,000 บาท หรือมากกว่านั้น และจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นเหมาะแก่การเลี้ยงปูนิ่ม ทำให้เกษตรกรที่เคยขาดทุน และหยุดเลี้ยงปูในช่วงที่ผ่านมา หันกลับมาเลี้ยงกันอีกครั้ง เพราะราคาที่สูงขึ้น และอัตราการตายของปูที่ลดน้อยลง ช่วงนี้จึงถือได้ว่าเป็นช่วงที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปูนิ่มเป็นอย่างมาก
นางนภา แช่เตีย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/2 ม.2 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง เจ้าของบ่อเลี้ยงปูนิ่ม กล่าวว่า สถานการณ์การเลี้ยงปูนิ่มในขณะนี้ดีขึ้นกว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากก่อนหน้านี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปูนิ่มต่างประสบกับปัญหาการขาดทุน จากอัตราการตายของปูสูง จึงล้มเลิกธุรกิจฟาร์มปูนิ่มไปหลายราย ซึ่งในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้พบว่า มีปูลอกคราบเพียงวันละ 10-20 ตัวเท่านั้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอุณหภูมิในบ่อเลี้ยงปูสูง แต่ช่วงนี้สภาพอากาศอบอุ่น ปูกินอาหารได้มากขึ้น ปูชุดนี้เลี้ยงไว้จำนวน 20,000 กว่าตัว
จำนวนปูที่ลอกคราบมีวันละ 100 ตัว มีขนาด 5-6 ตัวต่อกิโลกรัม สามารถขายได้ในราคากิโลกรัมละ 240-250 บาท สร้างรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท โดยซื้อปูดำเป็นมาในราคากิโลกรัมละ 100 บาท บวกค่าอาหารที่ให้แก่ปู คือ 2 วันต่อ 1 ครั้ง ยังเหลือกำไร รายไหนที่บ่อใหญ่ หรือมีจำนวนหลายบ่อจะมีรายได้วันละเกือบ 10,000 บาท หรือมากกว่านั้น และจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นเหมาะแก่การเลี้ยงปูนิ่ม ทำให้เกษตรกรที่เคยขาดทุน และหยุดเลี้ยงปูในช่วงที่ผ่านมา หันกลับมาเลี้ยงกันอีกครั้ง เพราะราคาที่สูงขึ้น และอัตราการตายของปูที่ลดน้อยลง ช่วงนี้จึงถือได้ว่าเป็นช่วงที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปูนิ่มเป็นอย่างมาก
